Black HelL อยากเจอดีก็บอกมาสิว่าไม่ได้รักฉัน
บทนำ
ณ อเมริกา เวลา 19.30น.
“ขอบใจเธอมากนะที่ยังไม่ลืมสัญญาระหว่างเรา” คุณน้าเพื่อนของแม่ฉันพูดขึ้นอย่างเบิกบานไม่ต่างไปจากสีหน้าของแม่ฉันในตอนนี้ที่ยิ้มร่ายิ่งเสียกว่าได้ทรัพย์มหาศาลเสียอีก
“ฉันไม่มีทางลืมสัญญาของเพื่อนรักอย่างเธอได้หรอก” คุณแม่พูดขึ้นพลางยิ้มกลับไปให้ในขณะที่ฉันซึ่งยืนลอบมองเหตุการณ์ทั้งหมดถึงกับใจตกไปอยู่ที่ตาตุ่มทันทีเพราะสัญญาที่แม่ให้ไว้กับเพื่อนของแม่คือการให้ฉันแต่งงานกับชินกิลูกชายของเพื่อนแม่ ผู้ชายที่เป็นคู่หมั้นของฉัน...โดยที่ฉันไม่เคยรักเขาเลยแม้แต่น้อยจนกระทั่งตอนนี้ที่เวลามันก็ผ่านมาหลายเดือนแล้วฉันกับเขาก็ไม่เคยมีความรู้สึกดีๆให้กันเลย
ฉันคิดก่อนจะหันหลังแล้วเดินออกไปจากตรงนั้นโดยไม่คิดแม้แต่จะแสดงตัวออกไปเลยแม้แต่น้อยก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้องนอนชั้นบนแล้วเดินไปยืนอยู่ตรงหน้าต่างบานใหญ่พลางทอดสายตาลงไปยังด้านล่าง ตอนนี้หิมะกำลังโปรยปรายลงมาพร้อมกับความเหน็บหนาวที่เริ่มก่อตัวขึ้นมาในใจ ก่อนที่สายตาจะไปสะดุดกับร่างสูงของใครบางคนที่กำลังยืนตากหิมะอยู่ด้านล่างพร้อมกับผู้หญิงอีกคนที่กำลังเขย่าแขนผู้ชายคนนั้นราวกับอ้อนวอนร้องขออะไรสักอย่าง
“ชินกิ...” ฉันเอ่ยชื่อเจ้าของร่างสูงออกมาโดยไม่ละสายตาไปจากภาพเบื้องล่างก่อนที่จะมีเหตุการณ์บางอย่างที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นเมื่อจู่ๆชินกิก็ตบหน้าผู้หญิงคนนั้นก่อนจะชี้หน้าแล้วพูดอะไรสักอย่างและไม่ต้องรออะไรฉันก็รีบวิ่งลงไปด้านล่างก่อนจะออกไปยังสวนที่ทั้งสองคนยืนอยู่ทันที แบบนี้มันบ้าชัดๆเลย ทำไมนายชินกิถึงได้รุนแรงกับผู้หญิงแบบนี้!
“นี่นาย!” ฉันตะโกนขึ้นหลังจากวิ่งมาหยุดด้านหลังของชินกิก่อนที่เขาจะหันมามองหน้าฉันพร้อมกับผู้หญิงคนนั้นที่ใบหน้าเป็นรอยแดงเถือกจากการถูกฟาดเมื่อครู่แต่เธอกลับไม่ได้มีสีหน้าไม่พอใจเลยแม้แต่น้อยตรงกันข้ามฉันกลับรู้สึกสงสารเธอด้วยซ้ำ
“อะไร!” ชินกิตะคอกถามทำให้ฉันต้องหันกลับไปมองหน้าเขาอย่างเอาเรื่องก่อนจะพูดขึ้น
“ทำไมนายต้องทำรุนแรงกับผู้หญิงคนนี้ด้วย! มีอะไรก็คุยกันดีๆสิ...”
“แล้วมันเรื่องอะไรของเธอ! อย่าคิดนะ!ว่าเป็นแค่คู่หมั้นแล้วจะมาวางท่าข่มอำนาจใส่ฉันได้!” ชินกิตะคอกใส่หน้าฉันอย่างไม่เกรงใจใครเลยแม้แต่น้อย ทำให้ฉันกับเลือดขึ้นหน้าเพราะอย่างน้อยเขาก็ควรรักษาหน้าในฐานะที่ฉันเป็นคู่หมั้นของเขาบ้าง!
“ใช่! ฉันมันก็แค่คู่หมั้นที่นายไม่เคยเห็นหัวอยู่แล้วนี่! เอาสิ...ถอนหมั้นจากฉันเลย! อยู่ด้วยกันไปมันก็ไม่มีอะไรดีขึ้น! ฉันเกลียดนาย นายเกลียดฉัน เราสองสองคนก็ต่างเกลียดกันอยู่แล้วนี่!” ฉันตะโกนใส่หน้าชินกิอย่างโมโหก่อนจะหันหลังเดินหนีแต่ก็ไม่ทันมือหนาที่คว้าข้อมือฉันไว้ก่อนจะออกแรงดึงให้ฉันเดินตามเขา
“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ! ปล่อย!” ฉันร้องโวยวายลั่นในขณะที่ชินกิลากฉันมาทางหลังบ้านก่อนจะเดินอ้อมพาฉันเข้าไปในห้องซ้อมดนตรีพร้อมกับผลักฉันเข้าไปในห้องแล้วล๊อคประตู
“จะทำอะไรของนายน่ะหะ!” ฉันตะโกนลั่นพลางถอยหนีร่างสูงที่เดินเข้ามาใกล้ฉันเรื่อยๆ
“ทำไม! เกิดกลัวฉันขึ้นมาหรือไง...ไหนลองบอกมาอีกทีสิว่าเธอเกลียดฉัน บอกมาสิ!” เขาตะโกนก่อนจะดันให้ฉันชิดติดกับกำแพงห้องพลางใช้แขนทั้งสองข้างกักตัวฉันไว้ไม่ให้หนี
“ฉันเกลียดนาย! เกลียดๆเกลียดที่สุดเลยรู้ไว้ด้วย!” ฉันตะคอกใส่หน้าเขาก่อนจะเบนหน้าหนี
“ก็ดี! แต่เธอจงรู้เอาไว้ด้วยนะ ว่าเธอยิ่งเกลียดฉันมากเท่าไหร่เธอก็ยิ่งไม่มีวันหนีพ้นฉันได้หรอก!”
“ฉันจะหนี! หนีไปให้ไกลจนนายหาฉันไม่เจอ! ฉันเกลียดนายรู้เอาไว้ด้วย ฮึกๆ” ฉันพูดพลางจ้องหน้าชินกิด้วยดวงตาทั้งสองข้างที่เปียกชื้นไปด้วยน้ำตา ถ้าไม่มีเขาสักคนความฝันของฉันที่จะได้เป็นนักแต่งเพลงก็คงไม่ต้องมาพังลงแบบนี้! ถ้าไม่มีเขาแม่คงไม่ยื่นเงื่อนไขกับฉันว่าภายในหนึ่งเดือนฉันต้องเป็นนักแต่งเพลงให้ได้ไม่อย่างนั้นต้องหมั้นและแต่งงานกับเขา! ฉันเกลียด! เกลียดเขาที่สุดเลย!
“ถ้าอย่างนั้นเราก็มาเล่นเกมไล่จับกัน...เธอต้องหนีส่วนฉันจะเป็นคนวิ่งไล่ตามเธอ นับจากวันพรุ่งนี้เป็นต้นไป...ถ้าฉันตามหาตัวเธอไม่เจอภายในสี่เดือน ฉันจะถอนหมั้นจากเธอ...แต่ถ้าฉันหาเธอเจอภายในสี่เดือนเธอต้องแต่งงานกับฉัน!”