FIC K-Sarumi <3
Valentine’s Day
“ ซารุ! พรุ่งนี้วันอะไร จำได้ป่ะ! “
“ หืม… วันศุกร์มั้ง ? “
“ ไม่ใช่โว๊ย!! “
“ ... “
“ ถึงวันนั้นนายจะรู้เอง ว่ามันคือวันอะไร!! “
“ ฟุชิมิซังครับ... ฟุชิมิซัง... “ สมาชิกในหน่วยพิเศษคนหนึ่งเห็นคนนั่งข้างๆตนเองกำลังสะลึมสะลือคล้ายจะหลับใน จึงได้สะกิดเรียกชื่ออีกฝ่ายเบาๆ เด็กหนุ่ม อากิระ ได้เรียกชื่อของบุคคลข้างๆเป็นระยะเพื่อให้เจ้าตัวที่กำลังหลับใหลได้ยินเสียงที่ตนเรียกและตื่นขึ้นมาสนใจการประชุมต่อ
“ มิซากิ... “ ร่างสูงข้างๆเด็กหนุ่มคนนั้นก้มหน้าก้มตา ดูเพลินๆเหมือนกำลังใช้ความคิดอยู่ แต่ถ้าจ้องดูใกล้ๆนั้นจะเห็นได้ว่า ฟุชิมิ ซารุฮิโกะ กำลังหลับและละเมอพึมพำเรียกชื่อของบุคคลคนหนึ่งในฝันของเขาออกมา...
ในการประชุมของสมาชิกสเคปเตอร์ 4 ผบ. มุนาคาตะ เรย์ชิ ที่กำลังเอ่ยบรรยายแผนการ การกำจัด Strain ระดับสูง สายตาเฉียบคมของผบ. หันไปมองด้วยหางตา รู้ทันได้เลยว่า ฟุชิมิ ซารุฮิโกะ กำลังแอบหลับอยู่ ซึ่งเขาสามารถรู้เห็นได้อย่างเด่นชัดกับการกระทำเช่นนี้ เพราะช่วงนี้ฟุชิมิ ซารุฮิโกะ ได้กระทำพฤติกรรมแบบนี้บ่อยครั้ง ไม่รู้สาเหตุอะไรที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้ หรืออีกปัจจัยหนึ่งก็คือ นอนไม่เพียงพอ
“ คุณฟุชิมิ... “ ผบ.ของสเคปเตอร์ 4 สุดจะทนกับพฤติกรรมแบบนี้ของเขา จึงได้เอ่ยเรียกร่างสูงที่กำลังก้มหน้าเคลิ้มหลับด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นและหนักแน่นพอควร ทำให้อีกฝ่ายสามารถตื่นขึ้นมาได้
“ ห๊ะ... “ ฟุชิมิ ซารุฮิโกะ ได้สะดุ้งตื่นจากภวังค์ และหันไปมองรอบๆการประชุม พร้อมกับถอนหายใจออกมา
“ เอาล่ะครับ เราจะมาเริ่มประชุมกันต่อ “ ผบ.มุนาคาตะ เรย์ชิ ได้บรรยายแผนการประชุมครั้งนี้ไปเรื่อยๆ แต่ฟุชิมิ ซารุฮิโกะ ก็ไม่ได้รับรู้แผนการประชุมครั้งนี้สักเท่าไหร่ เพราะเขาเองก็รู้สึกเบื่อหน่ายกับเรื่องแบบนี้ การประชุมที่มีการพูดปะมากมาย แผนการต่างๆ และมันมักจะทำให้เขาเผลอหลับได้ทุกครั้ง แม้จะไม่บ่อยมากเท่าไหร่ แต่เดี๋ยวนี้การเผลอหลับของเขามันเริ่มบ่อยขึ้นเรื่อยๆ และมักจะไปฝันเห็นเรื่องราวต่างๆในอดีต... ที่มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งในเหตุการณ์ด้วยตลอด...
“ ซารุ! พรุ่งนี้วันอะไร จำได้ป่ะ! “ เด็กหนุ่มร่างบาง วัยมัธยมปลาย ที่ได้ชื่อว่า ยาตะ มิซากิ เผยรอยยิ้มบางๆให้อีกฝ่ายที่เป็นคู่สนทนา
“ หืม… วันศุกร์มั้ง ? “ เด็กหนุ่มร่างสูง ที่มีนัยน์ตาน้ำเงินอมม่วงหม่นๆซึ่งซ่อนเร้นอยู่ภายใต้แว่นหนา เอ่ยปากออกมา ทำให้ร่างบางหุบยิ้มในทันที พร้อมกับทำหน้าบึ้งตึงใส่
“ ไม่ใช่โว๊ย!! “ ร่างบางตะโกนใส่ร่างสูง ทำให้อีกฝ่ายเหวอไปในทันที
“ . . . “
“ ถึงวันนั้นนายจะรู้เอง ว่ามันคือวันอะไร!! “ เด็กหนุ่มยาตะ มิซากิ มีท่าทางโกรธ ที่แสดงออกมาจากทางสีหน้าอย่างเด่งได้ชัด รีบหยิบกระเป๋านักเรียนของตนเองและรีบวิ่งออกจากห้องเรียนไปโดยทันที ทิ้งให้ร่างสูง นามว่า ฟุชิมิ ซารุฮิโกะ นั่งอยู่ภายในห้องเรียนที่ไม่หลงเหลือใครในตอนนี้
“ มิซากิ.. ฉันทำอะไรผิดหรอ... “ ฟุชิมินั่งลำพึงกับตัวเองเบาๆ
“ ซารุ... ฮึก... ฉะ ฉันขอโทษน่ะ ฮึก ฉันขอโทษ... “
“ มิซากิ!!! “ ฟุชิมิที่เผลอหลับในเวลาทำงาน ละเมอตะโกนเรียกชื่อของเด็กหนุ่มในฝันออกมา ทำให้สมาชิกในสเคปเตอร์ 4 ที่ก้มหน้าก้มตาทำงาน ตกใจกันในทันควัน ห้วงเวลาเหมือนหยุดนิ่งไป
“ อะ เอ่อ... ไม่มีอะไร “ ฟุชิมิหั่นไปมองทุกคนพร้อมกับปรับสีหน้าให้ไร้ความรู้สึกใส่ผู้คนรอบข้าง พรางจิ๊ปากเบาๆ
“ ฝันบ้าอะไรอีกแล้ววะ... “ ฟุชิมิหันมาสนใจงานต่อ ก่อนจะสลัดฝันทั้งหมดให้ออกจากหัวสมอง เขาไม่ต้องการนึกถึงคนคนนี้อีก.. ถึงจะพยายามคิดแบบนี้ แต่ระยะนี้ ฝันถึงเรื่องในอดีตแบบนั้นกลับเริ่มมาบ่อยขึ้นเรื่อยๆ...
“ ทำไมฉันถึงจำเหตุการณ์ที่เจ้านั่นมันร้องไห้ไม่ได้เลยฟร่ะ... “ ฟุชิมิพึมพำกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะเหลือบไปมองนาฬิกาบนฝาผนังที่บ่งบอกถึงเวลาเลิกงาน
“ ฟุชิมิซัง พรุ่งนี้มาทำงานเร็วๆด้วยน่ะะครับ และอย่าลืมว่าพรุ่งนี้เป็นวันสำคัญน่ะครับ “ ฮิโมริ หนึ่งในสมาชิกในสเคปเตอร์ 4 เอ่ยขึ้นแล้วยิ้มบางให้ ก่อนจะเดินออกจากสำนักงาน
ฟุชิมิขมวดคิ้ว สงสัยกับสิ่งที่ฮิโมริได้ทิ้งท้ายเอาไว้
“ ฉันไม่เห็นจะเข้าใจในสิ่งที่นายพูดเลย... “ ฟุชิมิส่ายหน้าเบาๆก่อนจะเดินออกจากสำนักงานเพื่อกลับบ้านของตนเอง ขณะที่เดินเข้ามาในเมือง นัตน์ตาภายใต้กรอบแว่นหนาไปสะดุดตากับสิ่งบางอย่าง ก่อนจะหยุดชะงักก้าวต่อไป
“ หึ หึ... หมี่ซากี้~~ “ ร่างสูงฉีกยิ้มโรคจิตก่อนจะเดินเข้าไปหาร่างบางที่เหม่อมองยืนถือสเก็ตบอร์ด จนไม่ได้สังเกตรอบตัวของตนเองว่ากำลังมีภัยมาคุกคาม
ฟุชิมิย่างก้าวไปหายาตะ มิซากิ พร้อมกับน้ำเสียงยียวนกวนประสาทอีกฝ่าย
“ หมี่ซากี้~ มาทำอะไรตรงนี้ห๊า~ มาคนเดียวซะด้วยสิ~ “
“ เรื่องของฉัน.. นายไม่เกี่ยว!! “ ร่างบางเริ่มรู้ตัว เมื่อได้ยินน้ำเสียงกวนประสาทอย่างที่คุ้นเคยทุกที ยาตะ มิซากิทำหน้าดุดันและพยายามระงับอารมณ์ที่ประทุออกมา เมื่อเขาเห็นฟุชิมิ ซารุฮิโกะทุกครั้ง เขามักจะอารมณ์เสียตลอด.. แต่บางครั้งก็รู้สึกได้ว่าเสียใจที่อีกฝ่ายชอบมาทำตัวหาเรื่องใส่เขาตลอด..
“ หมี่ซากี้~ อย่าตอบด้วยน้ำเสียงกระด้างแบบนั้นกับฉันสิ แล้วคนติดตามนายตลอดเนี่ยหายไปไหนแล้วหรอ ? หึหึ ~“ ฟุชิมิยักคิ้วอย่างยียวนก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ยาตะมากกว่านี้
“ ฉันบอกแล้วไงว่ามันเรื่องของฉัน ไม่เกี่ยวกับนาย! นายอยากไปไหนก็ไป อย่ามายุ่งกับฉัน!! “
“ เย็นชาจังเลยน่ะมิซากิ...ทั้งๆที่เมื่อก่อน... ยังอยากให้ฉันอยู่ข้างๆเลยแท้ๆ... “ ฟุชิมิยื่นใบหน้าเข้าไปกระซิบข้างๆหูอีกฝ่าย ร่างบางเริ่มหมดความอดทนกับสิ่งที่เขาพูด และน้ำเสียงที่ยียวนไม่เคยเปลี่ยน....
“ ซารุ... หยุดเถอะ... อย่าทำตัวแบบนี้... ฉันไม่เข้าใจนายเลยจริงๆ... ทำไมต้องออกจากโฮมระ... ทำไมต้องมาคอยประจบหาเรื่องฉันตลอด... “ ความรู้สึกเจ็บแปล๊บๆที่เอ่อล้น ความรู้สึกของเขาที่มีต่อซารุฮิโกะไม่เคยเจือจางหายไปเลย...
ตั้งแต่ครั้งแรกที่ยาตะได้รู้จักกับคนคนนี้ มันเป็นห้วงเวลาที่มีแต่ความสุขเอ่อล้นเข้ามาในหัวใจ... ที่เขาพูดมันก็จริง ยาตะต้องการให้คนคนนี้อยู่ข้างๆเขาตลอดไป...
แต่แท้จริงแล้วเขาคนนั้นมากกว่าที่ไม่สามารถขาดยาตะ มิซากิ เด็กหนุ่มที่ไม่มีอะไรไปมากกว่ารอยยิ้มที่สดใสและร่าเริงได้... ถึงกระนั้นยาตะก็ไม่สามารถเข้าใจจิตใจของซารุฮิโกะได้
“ หึ... ฉันต่างหากละมิซากิ ที่ไม่เข้าใจนาย... “ ฟุชิมิเหยียดยิ้มมุมปากหน่อยๆ พรางจิ๊ปากในลำคอ
“ เอาเถอะ...ถึงพูดกับคนอย่างนายไป... ยังไงมันก็ไม่ทำให้พวกเราเข้าใจกันอยู่ดี!! “ ยาตะ มิซากิเริ่มควบคุมอารมณ์ที่ปะทุออกมาไม่ไหว ทำให้ตะโกนใส่หน้าฟุชิมิ ซารุฮิโกะ จนผู้คนแถวนั้นแตกตื่นพากันหันมามองร่างบางกับร่างสูงคล้ายกับว่าจะมีการชกต่อยกัน
ยาตะปาเศษกระดาษบางอย่างใส่หน้าซารุฮิโกะแทนการทำร้ายร่างกายไปตามอารมณ์ที่ปะทุออกมาทิ้งท้ายไว้ ก่อนจะรีบวิ่งออกมาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“ จิ๊... “ ฟุชิมิจิ๊ปากเบาๆตามความเคยชิน ก่อนจะหยิบเศษกระดาษที่หล่นลงไปข้างๆเท้านั้นขึ้นมาดู และเปิดอ่านมัน... เขายิ้มเยาะออกมาหน่อยๆ ก่อนจะหันไปมองผู้คนรอบๆ และปรับสีหน้าให้นิ่งเหมือนเหตุการณ์ที่ผ่านมาไม่เคยเกิดขึ้น
“ กลับมาแล้วครับ!! “
ร้านบาร์โฮมระแห่งหนึ่งในเมือง โฮมระที่ซึ่งเป็นเหมือนครอบครัวใหญ่ครอบครัวหนึ่งที่ไว้วางใจต่อกัน และรักกันมากเปรียบเสมือนครอบครัวเดียวกัน
ยาตะ มิซากิ ได้เปิดประตูเข้าไปในร้านบาร์ของโฮมระ พรางเหลือบไปเห็นคุซานางิ เจ้าของบาร์แห่งนี้ และเด็กสาวหน้าตาน่ารักที่มีผมยาวสลวยภายในร้าน ร่างบางยิ้มกว้างก่อนจะเข้าไปนั่งข้างๆเด็กสาวในชุดโลลิต้าคนนี้
เขาพยายามสลัดเรื่องที่เกิดขึ้นออกจากหัว ก่อนจะหันไปมองใบหน้าเรียวสวยของสาวน้อย นามว่า แอนนา
“ อ้าว ยาตะจังกลับมาแล้วหรอ “ คุซานางิเงยหน้าขึ้นมามอง ขณะที่กำลังเช็ดทำความสะอาดแก้วใสอยู่
“ ครับ “ ยาตะยิ้มบางก่อนจะหันไปหาแอนนาแล้วพูดต่อ “ นะ นี่.. แอนนา สอนฉันทำช็อคโกแลตหน่อยสิ... “ มิซากิเอ่ยปากขอร้องแอนนาด้วยสีหน้าที่เริ่มแดงจางๆ พร้อมกับน้ำเสียงเบาๆ พยายามให้ได้ยินกันแค่สองคน เพราะตอนนี้มันเป็นโอกาสเหมาะมากที่จะขอร้องแอนนาให้สอนทำ แต่คุซานางิดันหูไวกว่า ทำให้ได้ยินเรื่องที่ยาตะเอ่ยออกมา
“ นั่นสินะ พรุ่งนี้วันวาเลนไทน์แล้วนี่นา แล้วยาตะจังจะทำช็อคโคแลตให้ใครหรอ “ คุซานางิเอ่ยปากเชิงแซวออกมา พร้อมกับเช็ดแก้วต่อ
“ จะให้ช่วยสอนก็ทำได้อยู่น่ะ แต่ยาตะจะเอาไปให้ใครละ “ แอนนาเริ่มแซวบ้าง
“ ผะ ผมไม่ได้จะทำให้ใครสักหน่อย คะ แค่อยากทำให้ตัวเองเท่านั้นแหละ!! “ ยาตะเริ่มมีสีหน้าแดงเถือกเรื่อยๆ ทำให้คุซานางิกับแอนนาหัวเราะออกมาเบาๆ พวกเขารู้ดีว่ายาตะจะเอาไปให้ใคร เพราะไม่มีใครที่ยาตะคิดจะให้ของแบบนี้นอกจากเพื่อนสมัยมัยธยมคนนั้นแล้ว...
“ เท่านี้ก็เสร็จแล้วสินะ!! “ ยาตะยิ้มร่า พร้อมกับเอาช็อคโกแลตที่ตัวเองทำอย่างสมบูรณ์แบบตามขั้นตอนที่แอนนาสอน แถมเขายังทำได้ดีเลยทีเดียว ทั้งรสชาติที่ไม่หวานจนเกินไป เพราะเขารู้ใจคนคนนั้นดีที่เป็นความดันต่ำ จึงไม่ค่อยชอบทานของหวานสักเท่าไหร่
“ ขอบคุณมากนะแอนนา!! “ ยาตะหันไปยิ้มให้เด็กสาวร่างบางในชุดโลลิต้าภายใต้ผ้ากันเปื้อนลายหวาน
“ พรุ่งนี้ก็พยายามเข้าน่ะยาตะ... ให้ถึงมือคนคนนั้นให้ได้ละ “ แอนนายิ้มบางให้ก่อนจะไปถอดผ้ากันเปื้อนออก
“ ฉะ ฉันทำให้ตัวเองต่างหากล่ะ... “ ยาตะหน้าแดงเถือก พลางนึกคิดถึงเรื่องราวในอดีตตอนมัธยมที่เหมือนเขาจะให้ช็อคโกแลตกับคนคนนึง ที่ไม่คิดจะสนใจว่าวันดีคืนดีเป็นวันสำคัญอะไรบ้าง และเขาเชื่อว่าปีนี้คนคนนั้นก็คงไม่ได้สนใจใยดีว่าวันพรุ่งนี้จะเป็นวันสำคัญอะไร... คงมีแต่ตัวเองที่คิดจะสนใจ...
วันรุ่งขึ้น... ฟุชิมิ ซารุฮิโกะได้ไปทำงานแต่เช้าๆตามที่ฮิโมริ เพื่อนร่วมงานคนหนึ่งที่ได้เอ่ยปากบอกเขาไว้...
ไม่ใช่ว่าฟุชิมิจะเชื่อฟังคำพูดของเพื่อนร่วมงานคนนั้น แต่เพราะว่าเขาอยากรู้เฉยๆว่าความหมายของคำพูดนั้นหมายถึงอะไร
“ เอาช็อคโกแลตมาให้ฉันทำไมเยอะแยะ... “ ฟุชิมิขมวดคิ้วมองด้วยสายตาเอือมๆกับของหวานๆ เพราะเขาไม่อยากได้มันสักนิด และก็สงสัยกับเหตุผลที่ทำไมเพื่อนร่วมงานต้องเอาช็อคโกแลตมาให้เยอะแยะด้วย
“ สุขสันต์วันเวาเลนไทน์น่ะครับ! ฟุชิมิซัง!! “ เพื่อนร่วมงานในสเคปเตอร์ 4 พูดพร้อมกันพร้อมกับยื่นช็อคโกแลตตามมารยาทที่อยู่ในถุงให้ ฟุชิมิ ซารุฮิโกะยืนงงงวย ก่อนสมองจะเริ่มประมวลผลว่าวันนี้คือวันอะไร... ใช่สิ... เขาไม่เคยนึกถึงมันเลยว่ามันคือวันสำคัญวันหนึ่งตามที่ฮิโมริได้บอกทิ้งท้ายเอาไว้...
“ ผมให้นะครับ ฟุชิมิซัง... “ จู่ๆก็มีกล่องช็อคโกแลตกล่องหนึ่ง.. ไม่สิ สองกล่องต่างหาก เมื่อฟุชิมิเงยหน้าขึ้นมอง ก็เห็นผบ.กับรองผบ.อยู่ตรงหน้า
“ อะ เอ่อ.. ขอบคุณครับ... “
“ ช็อคโกแลตตามมารยาทนะ ถึงจะซื้อมาก็เถอะ “ รองผบ.ฉีกยิ้มบางๆให้
“ ฟุชิมิซัง.. ถึงคุณจะจำไม่ได้ว่าวันนี้เป็นวันอะไร... แต่คุณก็ควรจะสนใจมันสักนิดหน่อยก็ได้นะ เพราะบางทีสิ่งสำคัญในวันสำคัญมันเก็บเกี่ยวได้ยากมากเลยนะครับ.. “ ผบ.มุนากาตะ เรย์ชิ ยิ้มบางให้ก่อนจะเดินลับตาไป พร้อมกับรองผบ.สาวสวย ฟุชิมิได้แต่ยืนนิ่ง พร้อมมองช็อคโกแลตทั้งหมด...
“ คำพูดของผบ.เนี่ย... เข้าใจยากไม่เคยเปลี่ยนเลยแหะ ฉันฝากของพวกนี้ไว้ก่อนน่ะ... “ ฟุชิมินึกขึ้นได้จากข้อความในกระดาษที่เมื่อวานมิซากิได้ปาใส่หน้าเขา... สมองเริ่มประติดประต่อกับเหตุการณ์ทั้งหมด.. ฟุชิมิพรางคิดว่าทำไมตัวเองไม่เคยสนใจที่จะดูปฏิทินเลยน่ะ รอคอยแต่ให้วันวานแสนน่าเบื่อนี่ผ่านไปเร็วๆ...
‘ ซารุ... พรุ่งนี้ตอนเช้ามาพบกันที่ที่สมัยมัธยมเราชอบไปด้วยกันบ่อยๆด้วยนะ... เพราะพรุ่งนี้มันคือวันสำคัญ... ‘
‘ ยาตะ มิซากิ ‘
“ ฉันจำได้แล้ว เหตุการณ์ในฝันนั่น... มันหมายถึงวันอะไร... และที่นายถามว่ามันคือวันอะไรเมื่อตอนนั้น... ฉันนึกออกแล้ว... มิซากิ ! “ ฟุชิมิรีบวิ่งออกไปในเมือง ท่ามกลางทางเดินสีสัน มีร้านขายของวันวาเลนไทน์มากมายแต่งแต้มไปด้วยด้วยดอกกุหลาบและช็อคโกแลตที่สื่อความหมายถึงการบอกรัก...
“ ซารุ.... “ ยาตะเงยหน้าขึ้นมามองคนคนหนึ่งที่คุ้นเคย... ร่างสูงรีบวิ่งมาด้วยความเหนื่อยหอบ... ยาตะเผยยิ้มบางออกมาเพียงคนเดียว เขาไม่เคยคิดเลยว่าคนคนนี้จะมาหาเขาด้วยข้อความนั้นที่เขาเขียนเอาไว้...
“ มิซากิ... ฉันจำได้แล้ว... วันนี้ไม่ใช่วันศุกร์ แต่เป็นวันวาเลนไทน์ต่างหากละ!! “ ฟุชิมิจับร่างบางที่ยืนแข็งทื่ออยู่มาไว้ในอ้อมกอดที่แสนโหยหา... ความรู้สึกแบบนี้ เป็นความรู้สึกอื่นได้ไม่ได้อีกแล้ว... ยกเว้นความรักและความคิดถึงที่เขามีให้ยาตะ มิซากิไม่เคยเปลี่ยน...
“ จะ จำได้ก็ดีแล้ว... นะ นายคงไม่ลืมสินะ ที่ฉันถามนายเมื่อตอนมัธยมปลายตอนนั้น “ ร่างบางหน้าแดงจางๆ พร้อมเงยมองร่างสูงที่ยิ้มบางออกมา
“ อื้อ จำได้สิ ไม่เคยลืมเลย... แต่ฉันแค่สงสัยอย่างเดียว... ทำไมตอนนั้นนายต้องร้องไห้ออกมาด้วย? “ ฟุชิมิขมวดคิ้วอย่างเข้นคำตอบจากอีกฝ่าย เขานึกออกแล้วเหตุการณ์เมื่อตอนนั้น ที่เด็กหนุ่มร่างบางร้องไห้ออกมา แต่เขาจำไม่ได้แม้แต่เหตุผลที่เด็กหนุ่มร่างบางคนนี้ร้องไห้ออกมา และเขาเชื่อว่าเหตุผลทั้งหมดไม่ได้มาจากตัวเขาแน่...
“ ตะ ตอนนั้นนะหรอ... กะ ก็คือ แบบว่า... นายคงลืมแล้วละมั้ง ตอนนั้นฉันไม่ได้ให้ช็อคโกแลตนายนี่นา แล้วฉันก็ทำด้วยตัวเองด้วย มันก็เลยออกมาเละ จนดูไม่ได้ ฉันรู้สึกเสียใจมากเลยนะ ตอนนั้นนะ ทั้งๆที่ฉันกะจะให้นายคนเดียวแท้ๆ...แถมยังตั้งคำถามแบบนั้นกับนายด้วย แต่พอมาโรงเรียนก็เห็นนายได้ช็อคโกแลตจากคนอื่นไม่น้อยเลย... แถมฉันยังโยนทิ้งก่อนที่จะให้นายด้วย ขอโทษนะ... ซารุ ตอนนั้นเลยไม่ได้ให้นายเลย... “ ยาตะ มิซากิน้ำตาคลอ พรางสะอื้นออกมาเบาๆ... ความรู้สึกทุกอย่างมันปลนเปลอออกมา ทั้งความไม่เข้าใจอีกฝ่าย และความเจ็บที่มันซ่อนเร้นทุกอย่าง... วันนี้มันได้เผยออกมาในอ้อมกอดที่แสนจะคิดถึง อ้อมกอดที่ไม่ได้เคยได้เข้าใกล้เป็นระยะเวลานาน
“ แล้วปีนี้นายจะให้ฉันได้รึเปล่า... “ นิ้วเรียวของฟุชิมิเกลี่ยน้ำตาบนแก้มใสของอีกฝ่ายออกเบาๆ พลางส่งยิ้มให้
“ อะ อื้อ ดะ ได้สิ ถะ ถึงมันจะเป็นช็อคโกแลตทำเองก็เถอะ... “ ร่างบางยื่นถุงช็อคโกแลตใบหนึ่งให้ หน้าเริ่มแดงไปถึงใบหู ทำให้ร่างบางต้องก้มหน้าหงุด ด้วยความเขินอาย
“ ขอบคุณน่ะ ฉันนะ...รักนายน่ะ... มิซากิ... “ ร่างสูงกระซิบข้างหูอีกฝ่ายเบาๆ ก่อนจะหยิบถุงช็อคโกแลตใบนั้นมา พร้อมกับยิ้มโรคจิตหน่อยๆ
“ ฉะ ฉันไม่เข้าใจนายจริงๆเลยซารุ!! ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมนายต้องคอยกวนประสาทฉันอยู่เรื่อย!! “ ร่างบางที่กำลังเขินอายแสร้งไปเปลี่ยนเรื่องจากบทสารภาพรักจากร่างสูงตรงหน้า ทำเอาร่างบางหน้าร้อนผ่าวแดงเถือกไปถึงใบหู ทำให้จนอยากจะมุดดินหนีไปเลยทีเดียว แถมยังทำการกลบเกลื่อนด้วยการเอาช็อคโกแลตที่ตนเองทำในถุงใบนั้น ยัดใส่ปากร่างสูงไม่ยั้ง จนฟุชิมิ ซารุฮิโกะ แทบอยากจะกลืนกินช็อคโกแลตและคนทำช็อคโกแลตชิ้นนี้ขึ้นมาพร้อมกันเลยทีเดียว ปริมาณความรักในช็อคโกแลตนี้ มีเกิน 1000 % แน่นอน เพราะเจ้าของกรอบแว่นหนาดำสนิทรู้ดีว่าภรรยาในอนาคตของตัวเอง(?)เป็นคนทำมันขึ้นมาตั้งแต่แรกเห็น
“ ฉันจะตอบแทนของขวัญวันวาเลนไทน์ให้นายตลอดทั้งคืนเลยล่ะ หมี่ซากี้~ <3 “
“ มะ ไม่เอาเฟร้ยย!!! อะ ไอ่ลิงโม่ยนี่!!“
ความในใจของฉันที่สักวันฉันจะต้องสื่อมันให้ถึงนายให้ได้...
ซารุ...ถึงฉันจะไม่เข้าใจนายและไม่กล้าพูดความรู้สึกออกไปตรงๆสักเท่าไหร่... แต่ฉันก็รักนายนะ ซารุของฉัน(เพียงคนเดียว)…
- END -
เขียนเมื่อ 14 ก.พ. 57
ลงในเว็บ Dek-D มาแล้ว
(ด้วยความอยากลงในเว็บธัญวลัย ไรท์เลยเอามาลงจ้า .w.)
ขอขอบพระคุณทุกๆท่านที่แวะเวียนเข้ามาอ่านนะค่ะ
ฝากติดตามนิยายเรื่องอื่นๆของไรท์ด้วยนะคะ X'D