INTRO SEASON2
ฤดูใบไม้ร่วง ปี 1965
จอนจองกุก เด็กหนุ่มรูปงามผู้มาจากอนาคตในปี 2015 อาศัยอยู่ในเมืองเล็กๆที่ไม่ห่างจากพูซานมากนัก เมื่อหลายปีก่อน เมื่อโชคชะตาเล่นตลกกับพวกเขา...ใช่แล้วล่ะ ต้องเรียกว่า”พวกเขา” สิถึงจะถูก ....คิมแทฮยอง เพื่อนแท้คนเดียวที่นี่ที่ตกกระไดพลอยโจนหลงยุคมาพร้อมจองกุก....เด็กหนุ่มทั้งสองอยู่ที่นี่มาได้ 5 ปีแล้ว
“จองกุก!!!! ไอ้ชั่ว ...ไอ้ %^$98wr)+$%”
“อย่าเพิ่งด่า...มึงรีบเปิดไพ่เร็วๆเลย”
“มึงมันขี้โกง...ถ้ากูเล่นแพ้ กูไม่จ่ายเงินให้แน่ๆไอ้จองกุก”
เสียงตะโกนด่าจากปากแทฮยอง เป็นที่ชินชาสำหรับคนในหมู่บ้านนี้เสียแล้ว ...เด็กหนุ่มนักสำรวจเส้นทางจากโซล ที่ชาวบ้านต่างรู้จักและเอ็นดูพวกเขาเหมือนลูกหลาน (เพราะแทฮยองเที่ยวไปออดอ้อนคนเฒ่าคนแก่เสียทั่วหมู่บ้าน) บัดนี้ เส้นทางเดินไปศาลเจ้ากลายเป็นถนนตัดใหม่ที่สร้างจนแล้วเสร็จเมื่อหลายปีก่อน...หน้าที่ของนักสำรวจเส้นทางจอมปลอมของพวกเขาจึงยุติลงไปด้วย
จอนจองกุก...กลายเป็นนักเปียโนที่ถูกกล่าวขนานนาม จนหาตัวจับได้ยาก ...ในปีหนึ่งๆจองกุกสามารถหาเงินได้ไม่น้อยจากการถ่ายทอดบทเพลงที่มีท่วงทำนองสดใหม่ ไพเราะจับใจ และฟังดูลึกลับน่าสนเท่ห์ในเวลาเดียวกัน
คิมแทฮยอง...กลายเป็นขวัญใจสาวน้อยใหญ่และหนุ่มๆประจำหมู่บ้าน ไม่มีใครไม่รู้จักเขาที่มาพร้อมหมวกบนเรือนผมสีน้ำตาลเข้ม พร้อมรอยยิ้มแสนสดใส ดูขี้เล่น ...ภาษาอังกฤษที่เรียนมาเกรดต่ำเตี้ยเรี่ยดินในยุคนั้น กลับมีประโยชน์มหาศาลในยุคนี้เสียได้ (นอกจากหมอจินแล้ว คนในหมู่บ้านก็แทบไม่รู้ภาษาอังกฤษกันเลยน่ะสิ) ... แทฮยองเป็นล่ามให้ทหารอเมริกันและมิชชันนารี่ที่ผ่านมาแถวนี้ ...บางวันก็สอนภาษาอังกฤษให้เด็กๆในโบสถ์
“วันนี้จะไปศาลเจ้ารึป่าววะ...” แทฮยองถามขึ้น
“ไปสิ...กูว่านัมจุนมันคงส่งจดหมายตอบกลับมาแล้วล่ะ” จองกุกตอบในขณะที่เก็บสำรับไพ่
คิมนัมจุน...เพื่อนแท้เพื่อนตายอีกคน ที่นับว่าโชคดีสุดชีวิต...เขายังคงอยู่ในที่ๆควรอยู่ซึ่งเป็นยุคของเขา...นัมจุนคือเพื่อนในมิติคู่ขนาน ที่ตอนนี้เป็นนักข่าวสายแข็งในวงการสื่อคนหนึ่ง เขายังคงเป็นคู่หูกับนักข่าวโฮปที่ทำงานเข้ากันได้ดีเยี่ยม
เมื่อจองกุกและแทฮยองไปถึงศาลเจ้าบนภูเขา ก็ได้รับจดหมายตอบกลับใต้ฐานรูปปั้นเทพเจ้าในที่เดิมๆ ... นัมจุนบอกเนื้อในจดหมายว่าเขาต้องไปประชุมที่ประเทศญี่ปุ่นนานเสียหน่อย...จึงไม่สามารถเขียนจดหมายมาให้ได้ในช่วงนี้
“อา....น่าอิจฉาชะมัด ชีวิตมันไปได้ดีจริงๆเลยว่ะ” แทฮยองทำหน้ามุ่ย พลางเกาหัว
“มันได้ไปถึงญี่ปุ่น...ส่วนเราก็น่าจะหาเวลาไปเที่ยวบ้างเหมือนกันนะ” จองกุกหันกลับมายิ้มอ่อนๆให้แทฮยอง เด็กหนุ่มทั้งสองเดินลงบันไดศาลเจ้าอย่างช้าๆ....แทฮยองคิดถึงคำพูดเมื่อครู่อย่างตื่นเต้น...ใช่สิ....เขาอยากไปเที่ยวบ้าง
“ชวนจีมินไปด้วยสิ” แทฮยองพูดขึ้น
“แน่นอนอยู่แล้ว...มึงก็ชวนคุณยุนกิไปสิ”
“แล้วพี่จิน....”
“หึ!....มึงไม่ต้องชวนมันไปด้วยเลยนะ” จองกุกทำเสียงจิ๊จ๊ะอย่างไม่พอใจ...จะอีกกี่ปี เขากับจินก็คงเข้ากันไม่ได้...
........................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................
แซ่ด แซ่ด... เสียงไม้กวาดกำลังโกยใบไม้สีเหลืองที่แห้งเหี่ยวกองรวมกัน...จีมินกำลังกวาดใบไม้ที่พากันร่วงโรยตามฤดูกาล ใบหน้าหวานเงยหน้ามองยอดไม้ที่เหลือแต่กิ่งก้านกับใบไม้สีเหลืองที่เหลือหรอมแหรม...
“ฤดูใบไม้ร่วงมาแล้วสิน๊า”
ปาร์คจีมิน... เด็กหนุ่มที่ยังคงเชื่อมั่นในความรักต่อจองกุก จีมินคนเดิมที่ยังคงอ่อนโยนแต่เข้มแข็ง...หากจะเปลี่ยนไปก็เพียงแค่ร่างบางที่ผอมลง ดวงตาคู่เรียวแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางเจืออ่อนๆพองามตัดกับผิวขาวน้ำนม...ชีวิตของจีมินไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมากนัก หากแต่ร่างบางก็พึงพอใจในทุกวันนี้...ชีวิตที่แสนสงบและรู้สึกมั่นคงปลอดภัยเมื่อมีจองกุก ก็น่าจะเพียงพอแล้วนี่นา....
ความแน่นอนก็คือความไม่แน่นอน...จีมินอาจจะลืมสัจธรรมนี้ไปเสียสนิท
พระเจ้าอาจจะกลั่นแกล้งเพื่อพิสูจน์หัวใจคนเราครั้งหนึ่งได้...แต่ก็ใช่ว่าพระเจ้าจะลงโทษเราซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่ได้....
ดวงชะตาหรือความบังเอิญ...กำลังย่างกรายเข้ามาทักทายพวกเขาอีกครั้ง...คงมีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่รู้....ว่าเมื่อไร
“จองกุก...กลับมาแล้วหรอ” จีมินส่งยิ้มหวานให้คนรัก...จองกุกยิ้มอบอุ่นกลับคืน เขาถอดเสื้อคลุมออกแล้วปกไหล่จีมิน
“จีมิน...ทำไมออกมาตากลมแบบนี้...มันหนาวแล้วนะ เดี๋ยวไม่สบายหรอก” จีมินส่ายหน้าเชิงว่าไม่เป็นไร
จองกุกแย่งไม้กวาดออกมาจากมือเล็ก...แล้วดันหลังให้จีมินรีบกลับเข้าบ้านไปพักผ่อน...ส่วนเจ้าตัวก็กวาดซากใบไม้ที่เหลืออย่างคล่องแคล่ว....
จีมินหันกลับมานั่งลงกอดเข่าตรงชานบ้านมุมโปรดของทั้งเขาและจองกุก... จองกุกยังคงดีกับเขา...เมื่อก่อนที่เป็นอย่างไร วันนี้ก็ยังคงเป็นอย่างนั้น...รอยยิ้มผุดขึ้นเล็กๆบนใบหน้า....
อยากรักจองกุกแบบนี้ไปนานๆจัง...ไม่สิ ตลอดไปเลย
“จีมิน....” จองกุกยังคงกวาดใบไม้แห้งกองเบ้อเริ่มพลางขานชื่อคนรัก
“หืม?”
“เราไปเที่ยวกันนะ...” ชายหนุ่มเงยหน้ามองคนรักด้วยรอยยิ้มที่เห็นฟันกระต่าย ดวงตาคู่โตเป็นประกายด้วยความสุข
“เที่ยวหรอ?? ...นั่นสินะ เราไม่ได้ไปไหนกันมานานมากแล้ว...” จีมินครุ่นคิด
“ไปโซลกันนะ??” ตั้งแต่จองกุกมายังห้วงอดีต...เขายังไม่มีโอกาสได้เห็นกรุงโซลในยุคนี้เลย...แค่คิดก็ตื่นเต้นแล้ว
จีมินยังไม่ทันได้ตอบรับ...ในขณะเดียวกัน บุรุษไปรษณีย์ก็มาตะโกนเพื่อให้ไปรับจดหมายที่หน้าประตูรั้ว...
จ่าหน้าซอง....ถึง ปาร์ค จี มิน ...จาก อิม แจ บอม
“พี่แจบอม” จีมินอ่านชื่อด้วยความตกตะลีง....คนๆนั้น....ส่งจดหมายถึงเขา....
ไม่จริงน่า....เรื่องโกหก...ไม่ใช่หรอกน่า....
จีมินพลิกหน้าซองกลับไปมาอย่างไม่เชื่อตาตัวเอง....มือเล็กเริ่มสั่นเทา...ความรู้สึกหวาดกลัว ดีใจ ตกใจ หรือเสียใจกันนะ
หน้าซองจดหมาย...เขียนชื่อที่อยู่ของร่างบางอย่างถูกต้อง...แจบอม ส่งจดหมายมาจาก มหาวิทยาลัยโซล....
โซล....
โซลงั้นหรอ??....
ร่างบางกำจดหมายแน่น......แม้แต่ความกล้าที่จะเปิดอ่านยังไม่มีเลย......คนๆนั้นกลับเข้ามาในชีวิตเขาได้ยังไง
ลางสังหรณ์กับเรื่องราวร้ายๆกำลังเริ่มก่อตัวในหัวใจของจีมินทีละน้อย........
“จีมินครับ” จองกุกเดินมาตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้
“หะ...หืม...วะ ว่าไง จองกุก”
“ชั้นเรียกชื่อนายหลายครั้งแล้ว....เหม่ออะไรอยู่หรอ หื้ม?” จองกุกเข้าสวมกอดร่างบางจากข้างหลัง
“เอ่อออ....เปล่าๆ มะ..ไม่มีอะไร” ท่าทางร้อนรนของจีมินทำให้จองกุกรู้สึกผิดสังเกตแต่เขาไม่ได้ถามซักไซร้ใดๆ
“สรุปเราไปเที่ยวโซลกันนะ” จองกุกพูด
“ชั้น....ไม่อยากไปโซลแล้ว”
“ทำไมล่ะ....โซลน่ะดีที่สุดแล้วนะ ไปกันเถอะจีมิน...ชั้นจะดูแลนายอย่างดีเลย” จองกุกหอมแก้มร่างบางเมื่อพูดจบ
ใบไม้ใบสุดท้ายถูกสายลมหนาวพัดจากหลุดจากต้นไม้ใหญ่ ล่องลอยในเวหาแสนเปล่าเปลี่ยวเคว้งคว้าง...
เริ่มต้นฤดูใบไม้ร่วง วันที่ 30 กันยายน 1965
TO BE CONTINUED