"พี่จินยอง เมาแล้วนะครับ ผมว่าเรากลับกันดีกว่านะ"
ร่างสูงประคองร่างบางไว้ในอ้อมแขนเพื่อไม่ให้ คนตรงหน้าที่สติแทบไม่เหลือล้มลงไปกับโต๊ะ
"ยูคยอมมม พี่ยังไม่เมาซะหน่อยยน้าา วันเกิดเพื่อนรักทั้งทีนะ จะกลับเร็วได้ไงงง ใช่มั้ย มาร์คเพื่อนร้ากกกก"
ยูคยอมมองผม ด้วยสายตาอ้อนวอน ไม่ต้องบอกก็รู้ ว่าเขาเป็นห่วงคนในอ้อมแขนของเขามากขนาดไหน
"จินยองกลับเถอะ นายเมามากจริงๆนั้นแหละ ยูคยอม นายพาแฟนนายกลับบ้านเถอะ เดี๋ยวพี่จัดการทางนี้เอง"
"ขอโทษนะ พี่มาร์ค.. วันเกิดพี่แท้ๆ"
"เห้ย ไม่เป็นไร 555 อย่าคิดมาก พี่ .. โอเค"
ผมไม่รู้ว่า ประโยคเมื่อกี้ที่ผมพูดออกไป สั่นแค่ไหน แต่ผมพยายามควบคุมมันได้เท่านั้นจริงๆ ที่จริง มันควรจะด้านชา แล้วชินกับความเจ็บปวดนี้ได้ตั้งนานแล้ว แต่ไม่รู้ทำไม ใจผมถึงยังไม่หายเจ็บซักที
ผมกับจินยองเป็นเพื่อนสนิทกัน เรียกได้ว่าเป็นเพื่อนคนสำคัญที่สุดในชีวิตผม ด้วยความที่บ้านเราทั้งสองคนอยู่ติดกัน เราเลยสนิทกันตั้งแต่เด็กๆ ละเริ่มเข้าโรงเรียนที่เดียวกันตั้งแต่อนุบาล เราแทบจะรู้ใจกันทุกเรื่อง จินยองคอยอยู่ข้างๆผมในวันที่ผมไม่มีใครเสมอ มันทำให้ผมจินตนาการวันที่ไม่มีเขาแทบไม่ออก
ส่วนยูคยอม เป็นลูกชายของเพื่อนพ่อจินยอง ด้วยความที่พ่อแม่ยูคยอมต้องเดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศบ่อย จึงฝากยูคยอมไว้กับพ่อแม่จินยองตั้งแต่เล็กๆ พวกเราสามคนจึงไปไหนด้วยกันตลอด อาจเพราะเหตุนี้ ยูคยอมจึงเป็นเด็กที่ดูโตกว่าวัย และเป็นที่พึ่งพาของพวกเราเสมอ
ผมไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ ที่ในสายตาผมมีแต่ยูคยอม
แต่ผมก็เพิ่งรู้ว่า ยูคยอม ไม่ได้อยู่ในสายตาผมแค่คนเดียว
.
.
.
.
31 ธ.ค. 2015
เสียงพลุดังสนั่นไปทั่วเมือง
แม้จะเป็นกลางดึกแต่ทั้งเมืองกลับปกคลุมไปด้วยเสียงเพลงและพูดคุยต่างจากทุกๆคืนที่ผ่านมาโดยสิ้นเชิง อีกไม่กี่ชม. ก็จะหมดวันสุดท้ายของปีแล้ว เราสามคนจะมานั่งนับถอยหลังด้วยกันเสมอ และปีนี้ก็เช่นกัน
"ยูคยอม พี่หิวน้ำอ่ะ ยังพอมีเวลา ลงไปซื้อน้ำที่เซเว่นให้หน่อยสิ" จินยองทำเสียงงุ้งงิ้ง อ้อนคนตัวใหญ่ข้างๆ
"มาหิวอะไรตอนนี้อ่ะพี่จินนน" แม้ร่างสูงจะบ่นอุบอิบ แต่ก็ลุกขี้นทันทีและ สวมแจ็คเก็ตออกไปซื้อน้ำให้พี่ๆอย่างว่าง่าย
ทันทีที่ประตูบานใหญ่ปิดลง จินยองก็หันหน้ามาหาผมทันที
"มาร์ค เรามีเรื่องจะปรึกษาอ่ะ" ผมมองหน้าเพื่อนข้างๆอย่างประหลาดใจ ร้อยวันพันปี จินยองแทบไม่เคยปรึกษาอะไรผมเลย เขามักจะเก็บเรื่องต่างๆไว้ในหัวเขาตลอด
"ว่า" ผมพูดพลางหยิบขนมเข้าปาก
"เราว่า .. เรา ชะ..ชอบ ยูคยอมอ่ะ"
ตุบ
เรี่ยวแรงที่ใช้หยิบขนมเมื่อกี้หายไปไหนก็ไม่ทราบ
"จิน ว่าอะไรนะ"
"เราชอบยูคยอม ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่รู้ตัวอีกทีก็ชอบเขามากๆแล้วอ่ะ มาร์คช่วยเราหน่อยนะ น้า นะ นะ นะ น้าาา"
จินยองจับมือผมแน่น ก่อนจะส่งสายตาอ้อนวอนระดับแมวเรียกแม่มาให้ผม
แล้วจะให้ผมทำยังไง
นี่เพื่อนรักผมนะ
'แต่เราก็ชอบยูคยอมนะ ชอบมาก ไม่ได้น้อยกว่าจินเลยอ่ะ'
เสียใจด้วย แต่นั่นเป็นแค่เสียงในห่วงความคิดผมเท่านั้นแหละครับ
"เอาสิ ให้มาร์คช่วยอะไรดี" ผมคลี่ยิ้มบางๆให้เพื่อนข้างๆ
จินยองฉีกยิ้มกว้างมากๆมาให้ และอธิบายแผนที่เขาคิดไว้ให้ผมฟัง ผมได้แต่หวังว่า จินยองจะสนใจแค่แผนที่เขากำลังพูดและไม่สังเกตุเห็นหน้าของผม ที่ไม่รู้ว่าตอนนี้เหมือนเด็กงอแงเวลาโดนแย่งของเล่นแค่ไหน
ยูคยอมกลับมาพร้อมถุงน้ำและขนมขนาดใหญ่
"เสบียงมาแล้วคร้าบบบ อะ.. อ่าว พี่มาร์คเป็นอะไร ง่วงนอนแล้วหรอ ทำไมตาแดงเชียว"
ผมสะดุ้งโหย่ง ไม่คิดว่าเด็กนี่จะสังเกตุ ทั้งที่ไฟก็ค่อนข้างสลัวแท้ๆ
"อื่ออ นิดหน่อย 555 เดี๋ยวพี่ไปล้างหน้าดีกว่า"
ผมรีบเดินไปที่ห้องน้ำตามแผนจินยอง ปล่อยให้พวกเขาอยู่ตามลำพัง
แล้วถือวิสาสะ แง้มประตูแอบฟังเล็กน้อย
จินยองหยิบหนังสือเล่มเล็กออกมา ผมคิดว่า จินยองน่าจะเขียนความในใจของตัวเองไว้ในหนังสือเล่มนั้น ความรักของเขาเริ่มเมื่อไหร่ ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ยูคยอมอยู่ในสายตาจินยองเสมอ ทุกอย่างคงจะอยู่ในสมุดเล่มนั้น
"พี่ชอบยูคยอมนะ ชอบมานานแล้วด้วย แต่พี่ไม่ต้องการ ไม่ต้องการเป็นพี่น้องกับยูคยอมแล้วอ่ะ" ร่างเล็กเริ่มสั่นเทา ใจของผมก็เช่นกัน มันเหมือนแตกเป็นเสี่ยงๆ ความรู้สึกชาไปทั้งหน้า ที่เหมือนโดนตบหลายสิบรอบนี่มันอะไรกัน
"แต่พี่จินยอง ผะ ผม ผมไม่เคยคิดกะ .."
"ขอร้องหล่ะ ! ฮือออ" ร่างบางโผเข้ากอดร่างสูง และปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอย่างไม่มีท่าทีจะหยุด
"ให้โอกาสพี่นะ พี่สัญญา ว่าพี่จะทำทุกอย่างให้ยูคยอมมีความสุข พี่สัญญา นะยูคยอม" จินยองได้แต่พูดเสียงอู้อี้ปนสะอื้นในอ้อมอกของคนตรงหน้า เข้าไม่กล้าแม้แต่จะสบตาร่างสูงด้วยซ้ำไป
มือหนาเอามือลูบหัวของคนในอ้อมแขนอย่างนุ่มนวล มันช่างดูอบอุ่นเสียเหลือเกิน สัมผัสนั้น ผมก็ไม่ได้ต้องการน้อยไปกว่าจินยองเลย แต่ผมรู้สึกได้ ว่าผมจะไม่มีสิทธิ์ได้เป็นเจ้าของสัมผัสนั้นอีกแล้ว
ยูคยอมถอดหายใจออกมาเบาๆ
"เข้าใจแล้วครับ มาลองกันก็ได้ หยุดร้องได้แล้วนะ คนดีของยูคยอม" ยูคยอมเช็ดน้ำตาให้คนในอ้อมกอด พร้อมส่งร้อยยิ้มบางๆให้
ที่ผมสามารถพูดได้ คือ ผมรักยูคยมอไม่ได้น้อยกว่าจินยองเลย
แต่ความกล้าที่ผมจะพูดมันออกไป ผมสู้จินยองไม่ได้จริงๆ
ผมสมควรยอมแพ้
ปังงง
กระดาษหลากสีพุ่งออกจากกรวยที่ผมเพิ่งดึงออกไปเมื่อซักครู่
"สุขสันต์วันปีใหม่ แล้วก็ รักกันนานๆนะ"
___________________________________________________________
ฟิคสั้นเรื่องสองมาแบ้วววว 55555
เรื่องที่แล้วอ่านกันเยอะเลย ฟิตแต่งเรื่องนี้ต่อ
มีแท็กแล้วน้าา ติชมใน #ficbyjinjin กันได้นะคะะ
หรือเข้าไปดูแฟนอาร์ต @jinjinx7 กันก็ได้นะ 555