ท่ามกลางลมพายุหิมะที่แสนเหน็บหนาวในค่ำคืนหนึ่งกลางเดือนธันวาคม หิมะสีขาวก็ได้ถูกแต้มด้วยโลหิต บรรยายกาศรอบข้างคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นเนื้อไฟ กองไฟแห่งการเข่นฆ่าฉาบแสงสีแดงไปทั่วคฤหาสน์หลังหนึ่งที่เต็มไปด้วยเสียงของการต่อสู้ ร่างไร้วิญญาณมากมายนอนเรียงรายอยู่เต็มพื้นคฤหาสน์ ผู้รอดชีวิตต่างกระเสือกกระสนหาทางออกมาจากกลางกองเพลิงซึ่งไม่มีใครรู้ได้เลยว่า เมื่อออกไปจากกองเพลิงนี้ได้แล้ว ข้างนอกนั้นจะเป็นอิสรภาพหรือความตายที่กำลังรอพวกเขาอยู่กันแน่
“ทุกคนวิ่งตามพี่มาเร็ว”
เกรซเซียส หนุ่มน้อยวัย 9 ขวบได้พาน้องหนีออกไปจากกองไฟ ที่กำลังไหม้บ้านของเขา อีกก้าวเดียวก็จะปลอดภัยแล้ว เด็กชายคิด
“โอ๊ย”
แต่เสียงของ เอะเอเดในวัย 7 ขวบ ซึ่งหกล้มจนลุกไม่ขึ้นดังมาจากข้างหลังเขา คานที่อยู่เหนือหัวของเธอนั้นกำลังจะพังลงมา เกรสเซียสรีบพาอลิซาเบธที่อุ้มน้องสาวอาร์เทมีส และจีโอกำลังอุ้มเฮฟเฟกัส ฝากให้ไอเวสน้องชายของเขาในวัย 8 ขวบ เขาดูแลก่อนจะวิ่งเข้าไปช่วยน้องสาวของตน เกรสเซียส เอาตัวเองเป็นโล่ป้องกันน้องสาวจากอันตรายที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่มีลำแสงสีไพลินพุ่งตรงเข้ามาผลักคานนั้นเอาไว้ไม่ให้หล่นทับเด็กทั้ง 2 คน ฝ่ามืออันนิ่มนวลก็ลูบแก้มของเกรซเซียนให้เงยหน้าขึ้นมา
“ท่านแม่”
เกรซเซียสพูด หญิงที่ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยแผลเล็กๆ เข้ามาหาลูกชายคนโตของเธอ หล่อนอุ้มเอะเอเดส่วนอีกข้างหนึ่งก็จูงแขนของเกรซเซียสเพื่อพาหนีออกจากกองเพลิง พอออกมาได้หล่อนก็ส่งเอะเอเดให้เกรสเซียส ก่อนจะรวบรวมพลังที่มีทั้งหมดของเธอออกมา หญิงสาวนั่งคุกเข่าลงตรงหน้าลูกชายของเธอ และค่อยๆลูบใบหน้าของเกรสเซียสอย่างอ่อนโยน
“จำเอาไว้นะค่ะคนดี ความรักเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด จงอยู่กับคนที่รักเราและจงรักในพันธะสัญญา”
เธอยิ้มอย่างอ่อนโยนให้กับเกรซเซียส ก่อนที่ไฟจะเผาไหม้ร่างของเธอทั้งเป็นต่อหน้าต่อตาลูกชาย
“ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย”
เกรซเซียส ตกใจอุทานส่งเสียดังไปทั่วห้อง เหตุการณ์นั้นมันผ่านไป 23 ปีแล้วแต่มันยังคงชัดเจนและตอกย้ำในความรู้สึกที่แสนจะเจ็บปวด ถึงเวลาจะผ่านมานานเพียงไร ก็ไม่ได้หมายความว่า ภาพนั้นจะหายจากความทรงจำของเขา
“ฝันร้ายอีกแล้วหรือค่ะ”
เสียงอันอบอุ่น ของ ยูเรนิดา ภรรยาผู้งดงามของเขา ซึ่งหล่อนก็ตื่นขึ้นมาเพราะตกใจเสียงร้องของเขา
“ช่างมันเถอะ ผมคงจะเหนื่อยกับงานมากเกินไป สงสัยต้องแบ่งให้ไอเวสกับอลิซช่วยสะแล้วสิ”
แล้วเขาก็เอนตัวลงไปนอนอย่างเดิม ฐานะในตอนนั้นกับตอนนี้ผิดกันราดฟ้ากับเหว เขาอยู่ในฐานะไวล์รอนและมาสเตอร์คนปัจจุบันของตระกูล แถมมีอำนาจเป็นใหญ่เป็นโตเทียบประมุขของประเทศนี้เหมือนในครั้งแต่ก่อน.....ก่อนที่พ่อกับแม่และคนทั้งตะกูลของเขาจะถูกลอบสังหาร อำนาจแทบล้นฟ้าแต่อยู่ใต้เท้าเพียงคนเดียว ตลอด 500 ปี ที่ลูกหลานต่างทำงานอย่างหนักเพื่อคนเพียงคนเดียว ไม่มีใครสามารถจะหาความสุขได้เพราะงานของตระกูลกานดาล์ฟ ตระกูลผู้พิทักษ์ที่รับใช้ราชาและราชินีผู้ถือพันธะสัญญาศักดิ์สิทธิ์ยังยาวนานกว่า 500ปี และยังคงสืบทอดมาอย่างนี้ตลอดไปจนกว่า
............................พันธะจะดับสูญ…………….