[Fic APH] Japan x Thai: No Erotic? (yaoi)
0
ตอน
7.23K
เข้าชม
104
ถูกใจ
11
ความคิดเห็น
30
เพิ่มลงคลัง

 

 

ทำไมถึงแต่ง Fic นี้?

เป็นเหตุผลง่ายๆเพราะเพื่อนคนหนึ่งได้แนะนำเรื่อง Hetalia เข้ามา

พอดูไปตอนเดียวก็รู้สึกว่าจะไม่มีซับไทยครบ จึงไปอ่านซับอังกฤษมา

 

ผลสุดท้าย . . .

ก็ติดเรื่องนี้แจจนได้ (กุมขมับ) และเรื่องนี้ยังทำให้ผมฟินไปอีก เพราะได้ไปค้นหาข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับ Fic แต่ละคู่

แต่ที่น่าสนใจก็คงจะเป็น Thai - kun ที่แสนจะน่ารักแถมยังนิสัยเหมือนคนไทยซะส่วนใหญ่

 

แต่ชอบตอนที่ อ. เขาคิดว่า เห็นคนไทยยิ้มๆและซื่อๆแบบนี้แต่แผนเยอะนะ ประมาณนั้น (หัวเราะ)

และญี่ปุ่นหรือคิคุที่บังเอิญเพื่อนตัวดีเอามาให้อีกครั้ง

(ถอนหายใจออกมา)

เจอ FanArt เข้าไปถึงกลับเสียเลือดไปเยอะ จนสุดท้ายก็มาแต่งจนได้

 

 

ปล. จริงๆแล้วกะจะแต่ง อินเดีย x ไทย นะครับ สาเหตุก็คงจะเพราะมีเครื่องแต่งกายและวัฒนธรรมกใล้เคียงกันจนเหมือนพี่น้องกันเลยทีเดียว (หัวเราะ)

 

 

**************************************************************

 

 

 

 

Fanfic Original: Hetalia: Axis Powers

 

Paring: Japan x Thai

 

Rate: NC…(หัวเราะ)

 

Story:   นกน้อยในกรง

 

warning: Fic Hetalia: Axis Powers เรื่องนี้เป็นเพียงนิยายที่แต่งมาเองเท่านั้น อาจมีเนื้อหาสอดแทรกเกี่ยวกับประวัติศาตร์ของประเทศ ความสัมพันธ์บางอย่าง และโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านนิยายครั้งนี้ด้วยนะครับ 

 

*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*

 

 

อยากจะพบเจอคุณอีกครั้ง

 

อยากจะพูดคุยกับคุณอีกครั้ง

 

อยากจะแตะร่างกายคุณอีกครั้ง

 

อยากจะคว้าตัวคุณกอดอีกครั้ง

 

อยากจะ…

 

บรรจงทิ้งรอยจูบตราตรึงความเป็นเจ้าของ…

 

สักครั้ง

 

 

อากาศยามอบอุ่นปนร้อนของประเทศไทยนี้ทำให้เหล่าประชาชนไทยหรือต่างชาติที่อยู่พื้นแผ่นดินไทยต่างพากันสบายอกสบายใจที่ ณ ช่วงนี้ช่างอบอุ่นถึงจะร้อนนิดหน่อยแต่ดีกว่าอากาศช่วงเดือนก่อนๆที่ทั้งร้อนจนเสื้อผ้าที่สวมใส่ถึงกับต้องเปียกแฉะ รวมเครื่องสำอางที่แต่งเติมบนใบหน้าก็ต้องเปรอะเปื้อนไม่เหลือความสวยและน่ารัก แถมอากาศยามนี้ก็เหมาะสำหรับออกมาจากบ้านเพื่อมาเดินเล่น ไม่ก็ทำความสะอาดบ้านตนเอง และไปเที่ยวเพื่อคลายความเครียด

 

อากาศยามอุ่นชวนให้ผ่อนคลายทำให้ชายหนุ่มที่กำลังรับลมอ่อนๆต้องเผลอหลับไปอีกครั้ง กลิ่นหอมของสายลมอ่อนๆที่ลอดผ่านเข้ามาทางหน้าต่างบานที่เปิดอยู่ ความรู้สึกว่าตนเองได้จมลงกับความฝันของตนเองไปเสียแล้ว ยิ่งลมอ่อนๆที่พัดเข้ามา บรรยากาศที่แสนอบอุ่นและ…

 

…ฝ่ามือที่คอยลูบเส้นผม…

 

ไม่รู้ว่านอนไปกี่ชั่วโมง แต่รู้แค่เพียงว่าฝ่ามือนี้ที่คอยลูบเส้นผมเขานั้นช่างเป็นสัมผัสที่แสนคุ้นเคยซะเสียจริง ค่อยๆเปิดเปลือกตาที่ปิดสนิทแล้วจ้องมองไปที่บุคคลปริศนาที่กำลังจะเอานิ้วเรียวมาเกลี่ยเส้นข้างๆเล่น พอรู้ว่าเป็นผู้ใดที่มารบกวนเวลาเขาหลับก็ค่อยๆเอาหัวขึ้นจากขอบหน้าต่างแล้วหันไปหาและไม่ลืมที่จะส่งรอยยิ้มหวานให้คนที่บุกเข้ามาถึงห้อง

 

“สวัสดีนะครับ คุณญี่ปุ่น” กล่าวทักทายตามมารยาทแล้วเริ่มเบียดขี้เกียจ

 

“ขอโทษที่เข้ามารบกวนนะครับ แต่พอดีมาเยี่ยมชมวัฒนธรรมของไทยน่ะครับ” พูดจาสุภาพโดยไม่ลืมขอโทษก่อนแถมยังยื่นของฝากเล็กๆน้อยๆมา "นี่ครับ ผมเอามาให้ไทยซังครับ"

 

“ขะ…ขอบคุณนะครับ แต่เกรงใจจังน่ะ”

 

“ไม่เป็นไรหรอกครับ รับเถอะครับ” ยื่นมาให้ต่อ

 

“คะ…ครับ ขอบคุณนะ”

 

รับมาด้วยความเกรงอกเกรงใจสาเหตุก็คงเพราะเวลาไปประชุมครั้งใหญ่ที่ประเทศตัวเองก็มักจะได้ของฝากติดมือมาตลอด ไม่ว่าจะในASEANหรือจากประเทศที่ทำสัญญากันเพื่อเพิ่มความสัมพันธ์มิตรหรือการค้าขาย…แค่คิดก็เริ่มเกรงใจแต่ก็ต้องรับเพราะกลัวจะโดนโกรธไม่ก็ด่า

 

ชายหนุ่มผิวพรรณเนียนขาวสะอาด เส้นผมสีนิลนั้นยาวตรงถึงคาง เสื้อผ้าที่แต่งอยู่ก็เรียบร้อยจะว่าเป็นเครื่องแต่งกายเต็มยศก็น่าจะใช่ แต่พออยู่ในชุดนี้ก็เหมาะกับหน้าตาสวยๆของคนคนนี้จริงๆ

 

“มีอะไรรึเปล่าครับ?” ญี่ปุ่นเอียงคอสงสัยและยื่นหน้ามาหา

 

“ปะ…เปล่าครับ แค่วันนี้แต่งตัวเต็มยศจังนะครับ”

 

“ก็พอดีโดนลากมาที่ประเทศไทยเพื่อมาพบปะกับพระมหากษัตริย์ของคุณ และ…”ค่อยๆเอื้อมมือเข้ามาโอบกอดเขา“คิดถึงไทยซัง…”

 

คำพูดแค่เพียงสั้นๆกำลังทำให้หัวใจของเขานั้นเต้นตึกตักไม่เป็นปกติ ทั้งๆที่ไม่ได้คิดหรือใส่ใจในคำพูดที่เป็นมิตร แต่รู้สึกได้ว่าแก้มเขากำลังร้อนจนลามไปถึงใบหูยิ่งคนตรงหน้าไม่ยอมปล่อยก็ยิ่งทำให้หัวใจทับถมราวกับอึดอัดไม่ก็…

 

…เจ็บ…

 

ไม่เข้าใจความรู้สึกแบบนี้เสียเลย เขาค่อยๆผละคนตรงหน้าออกแล้วขอคนตรงหน้าไปเก็บของฝากที่ให้มาก่อนที่จะโดนลูบเส้นผม

 

“คือ… ” เขาเริ่มพูดขึ้นมา “คุณญี่ปุ่นที่จริง…อ่อนโยนนะครับ”

 

“…ไม่หรอกครับ”

 

หนุ่มญี่ปุ่นส่ายหน้าไปมาและปล่อยให้เขาเอาของไปเก็บ โดยที่ไทยนั้นไม่ได้รู้ตัวเลยว่ากำลังโดนว่าที่เพื่อนทำสัญญาผูกมิตรคนนี้จ้องมองไม่ละสายตาจนได้คิดอกุศลกับคนที่พึ่งออกไป

 

…เขาไม่ใช่คนดีอย่างที่คิด ก็แค่ 'รัก' จึงอยากอ่อนโยนก็เท่านั้น…

 

ทั้งๆที่รู้ว่ามิอาจเอื้อมเข้าไปหาคนคนนี้ ทำได้แค่เพียงอยู่เคียงข้างและจ้องมองเพื่อให้รู้สึกได้ว่า 'กำลังมองอยู่' แต่ก็คงไม่เห็น

 

จึงทำให้เขารู้ว่าการรักข้างเดียวนั้น…ช่างเจ็บปวดเพียงใด มิอาจเอ่ยออกมา มิอาจร่ำไห้ตะโกนออกมาหรือแสดงออกมา ทำได้แค่เพียงกักเก็บความรู้สึกข้างในหัวใจที่เป็นดั่งประตูทางใจของความรู้สึกที่แสนจะเจ็บปวด

 

อยากเอ่ยออกมาให้รับรู้ว่า 'รัก' ไม่ก็ 'ชอบ' แต่มันก็เป็นเพียง 'ฝัน' เท่านั้น

 

ญี่ปุ่นที่เอาแต่เหม่อลอยจู่ๆก็โดนเจ้าของบ้านใช้ปลายนิ้วมือสัมผัสเส้นผมสีนิลด้านหลังอย่างเบาบาง ทำให้เขาต้องหันไปด้านหลังตามสัมผัสโดยมือของเขาเองก็จับเจ้าที่หลังผม

 

“คือ…ผมของคุณญี่ปุ่นนี่นุ่มจังนะครับ” คนที่แตะเส้นผมยิ้มหวาน

 

“ขะ…ขอบคุณครับ” แก้มเริ่มแดงก่ำและกำลังลามไปทั่วใบหน้า

 

“คุณญี่ปุ่นเขินเหรอครับ?”

 

“ปะ…เปล่าครับ!! แค่…แค่ร้อน” เขาเริ่มหาทางแก้เพื่อไม่ให้คนตรงหน้าต้องรู้ไปมากกว่านี้ แต่ก็…

 

“นั่นสินะครับ รู้สึกว่าจะเริ่มร้อนแล้วสิ”

 

เป็นไปตามที่เขาคาดเอาไว้ ไทยนั้นจะซื่อ แถมเชื่อง่ายในคำพูดแต่ก็.…

 

“…คุณญี่ปุ่น ที่จริงมันก็ไม่ร้อนขนาดนั้นนะ”

 

ชอบแกล้งว่า 'เชื่อ' แต่ที่จริงเป็นคนที่มีลูกเล่นเยอะ ญี่ปุ่นถึงกับอยากเอาหัวอัดกับกำแพงจริงๆ เขาเหลือบมองข้างๆแล้วเงียบไปจนคนที่แกล้งหัวเราะออกมาและยื่นมือไปสัมผัสเส้นผมเบาๆ

 

“ทานอะไรก่อนไหมครับ?” คนตรงหน้าที่ลูบผมเริ่มถาม

 

“…นิดหน่อยครับ”

 

“ถ้างั้น…รอสักครู่นะครับ”

 

“ครับ แต่ผมอยาก…”

 

“…?” คนตรงหน้าเอียงคอเล็กน้อย“อยากอะไรครับ?”

 

“…ผมอยากเห็น…ไทยซังทำอาหารครับ”

 

“ได้สิ”

 

“…งั้นไม่เกรงใจนะครับ”

 

“…ครับ”

 

ช่วงเวลาที่คุยกันนั้นทำให้เขาเริ่มยิ่งไปเพิ่มจุดจับผิดไทยที่มีท่าทาง…

 

…จับผิดเขาเต็มๆ…

 

“วันนี้กินของหวานแล้วกันนะครับ”

 

“ครับ”

 

เขาเริ่มตามหลังร่างบางแล้วแอบมองแผ่นหลังอันแสนบอบบางเกินบรรยาย แต่พอมาแอบนึกคิดช่วงสงครามที่คนคนนี้ต้องบุกตะลุยฝ่าสงครามอันน่าสยดสยอง ในแต่ละครั้งที่ทำสงครามจนในที่สุดกว่าจะสงบลงต้องสูญเสียทรัพยากรต่างๆนาๆรวมทั้งประชาชนไปกี่ร้อย พันคน

 

ไม่ยอมที่จะโดนตกเป็นของใครต่อใคร

 

ไม่ยอมที่จะโดนกดขี่ ข่มเหง

 

ไม่ยอมที่จะโดนเสียศักดิ์ศรี

 

ไม่ยอมที่จะโดนเอาเปรียบ

 

หรือแม้แต่…

 

หัวใจ

 

ที่ปิดกั้นราวกับไม่ยอมที่จะให้เข้าไปในประตูของหัวใจได้ง่ายๆ มักมีสิ่งกีดขวางหน้าประตูและของสิ่งนั้นมักจะถูกปิดกั้นได้อย่างเหนียวแน่น ไม่ว่าจะใช้วิธีทางไหน…เส้นกั้นนี้ก็ไม่มีท่าทีว่าจะปลดหรือต้องเรียกว่า ‘สลายหายไป’ ถึงจะถูก

 

ค่อยๆเอื้อมมือไปแตะบนโต๊ะแล้วนั่งบนเก้าอี้โดยไม่ลืมที่จะ ‘จ้องมอง’ คนตรงหน้าอย่าง ‘หลงใหล’ ไทยที่เอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาทำขนมหวานอย่างเดียวไม่รู้ตัวจริงๆว่ากำลังโดนจ้องมองอยู่ไม่ห่างตา ปลายนิ้วที่เริ่มขยับจับต้องสิ่งของอุปกรณ์ทำอาหารรวมทั้งวัตถุดิบที่จะปรุงแต่งกลายเป็นของอร่อย

 

ผิวขาวไม่มากแต่ก็ไม่เชิงว่าจะคล้ำเกินไปจนน่าสัมผัส ลำคอยาวน่าบรรจงทิ้งรอยจูบแดงราวกับคิดจะแกล้งคนตรงหน้าจริงๆจังๆเพื่อให้ร่างนี้มีสีหน้าที่เต็มไปด้วย…

 

“ปุ่น…คุณญี่ปุ่น?” น้ำเสียงเรียกรีบดึงสติให้เขากลับมาจากห้วงแห้งมโนภาพ

 

“คะ…ครับไทยซัง?!”

 

“เหม่ออะไรน่ะครับ?”

 

“ปะ…เปล่าครับ!”

 

“คือ…ผมอยากให้คุณญี่ปุ่นลองชิมดูน่ะ” ยื่นขนมสีเหลืองเป็นหยดน้ำมาจ่อปากเขาแถมยังส่งยิ้มด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน

 

…ทะ…ไทยซังน่ารัก!…

 

“ทะ…ทานแล้วนะครับ” ค่อยๆเผยอริมฝีปากแล้วงับกินลูกเหลืองๆ “อะ…อร่อย หวาน”

 

“ฮึๆ นี่คือ ‘ทองหยอด’ ครับ”

 

“ทองหยอด?”

 

“ครับ แถมมันยังมีความหมายของเงินทองด้วยนะ”

 

“สุดยอด งั้นพวกเรามาทานขนมนี้กันเถอะครับ”

 

“ครับ!”

 

รอยยิ้มที่แสนน่ารักเมื่อมองกี่ทีกี่ครั้งก็ไม่เคยจะเบื่อเสียเลยยังดีกว่าที่จะยิ้มไม่เต็มอกเต็มใจให้ ทั้งเขาทั้งไทยที่พากันมากินขนมไทยโดยไม่ลืมบทสนทนาพูดคุยเพื่อไม่ให้เงียบจนเกินไป ต่างก็พากันเปิดบทสนทนาในการพูดไปเรื่อยๆจนสุดท้ายขนมในจานกับน้ำผลไม้ก็หมด เหลือเพียงแค่เศษคราบน้ำหวานของทองหยอดกับน้ำผลไม้หยดเล็กๆภายในแก้วใส

 

กลิ่นของขนมหวานเล็กๆน้อยกับน้ำผลไม้นี้ทำให้เขารู้สึกอิ่มเอมใจยิ่งนัก ค่อยๆแอบมองร่างคนข้างๆที่เหม่อลอยมองออกไปข้างนอกจนเขาต้องแอบเขยิบเข้าไปชิดใกล้เพื่อได้แอบดมกลิ่นเส้นผมของคนที่เหม่อนี้แล้วฉีกยิ้มอย่างพออกพอใจ

 

“นี่…คุณญี่ปุ่น”

 

“ครับ?”

 

“…ผมอยากจะถามมานานแล้วล่ะครับ”

 

“ถามมาเลยครับ”

 

“…” ไทยจ้องมองหรือสบตาตรงๆมาที่เขาจากนั้นก็ก้มหน้าลง “คุณญี่ปุ่น…”

 

“…”

 

“ผะ…” จะเอ่ยพูดออกมาก็ทำท่าราวกับเป็นเรื่องยากลำบาก “คุณญี่ปุ่นชอบผมเหรอครับ?”

 

“…”

 

“…”

 

…เก็บไว้ไม่ได้แล้วเหรอ?…

 

“ผม…ออกหน้าออกตาขนาดนั้นเชียว?”

 

“…อา…เอ๋?” กว่าจะรู้ตัวก็เผลอโดนปลายนิ้วชี้แตะริมฝีปากซะแล้ว

 

“…ในเมื่อรู้ ผมขอจูบคุณนะครับ…ไทยซัง”

 

“ริมฝีปาก…ดะ…เดี๋ยว…!”

 

 

 

 

 

 

ไม่ขาดคำ ร่างที่โดนจู่โจมที่ทั้งผลักให้ล้มลงนอนบนพื้นโดยได้มีร่างอีกร่างซ้อนทับคร่อมไม่ให้เขาไปไหนหรือหลุดหนีไปได้ ไทยที่เริ่มดิ้นไปมาแต่กลับสู้แรงของญี่ปุ่นไม่ได้เลยตอนนี้…เพราะอะไรกันถึงยอมให้คนตรงหน้าเข้ามาสัมผัสริมฝีปากโดยไม่ลืมที่จะอ่อนโยนราวกับกำลังหยอกเล่นเขาให้ต้องเผลอเคลิบเคลิ้ม

 

ริมฝีปากที่หยอกเล่นโดยใช้ริมฝีปากกัดกลีบริมฝีปากบนไม่หยุด แถมยังยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆลำคอแล้วเริ่มไล้เลียลำคอเขาโดยไม่ลืมที่จะสัมผัสร่างกายของไทยจากปกติเริ่มที่จะร้อนรุมมากขึ้นมากขึ้นและมากขึ้น

 

ยิ่งได้ใช้ปลายนิ้วปาดตวัดแผงอกและส่วนขาลูบไล้ไปมา และบรรจงจูบปลอบโยนอีกด้วย ตัวของคนที่ทุกกระทำเริ่มรู้สึกว่า ‘ร่างกาย’ นี้ยอมให้คนคนนี้ ‘สัมผัส’ คนเดียวงั้นเหรอ?

 

“คะ…คุณญี่ปุ่น?!”

 

“ไทยซัง…” ยื่นปลายนิ้วมือมาสัมผัสแก้มเขาอย่างแผ่วเบา “ผมขอโทษ ผมคิดไม่ซื่อกับไทยซัง”

 

“…เฮ่อ” เสียงถอนหายใจโดยร่างบางที่ตอนนี้ไม่ได้โดนทำอะไรแล้ว ดังขึ้นพร้อมๆกับลูบเส้นผมญี่ปุ่น “อันที่จริงผมคิดกับคุณญี่ปุ่นแบบ ‘เพื่อน’ นะ”

 

…เพื่อน…

 

คำพูดราวกับเน้นคำๆนั้นก้องอยู่ในหัวแต่ก็ต้องยอมรับฟังการพูดของคนที่นอนอยู่ต่อไป สัมผัสที่ฝ่ามือกำลังจับใบหน้าญี่ปุ่นอยู่นั้นช่างอ่อนโยนปนกับไออุ่นจางๆ สัมผัสที่ไม่มากนักแต่ก็ทำให้หัวใจของเขานั้นสั่นไหวราวกับกำลังตื่นเต้นหรือกลัวว่าจะพูดบางสิ่งบางอย่างที่สามารถทิ่มแทงหัวใจให้ ‘เจ็บ’ ได้

 

“แต่…พอวันนี้คุณญี่ปุ่นทำตัวแปลกๆก็เลยเข้าใจว่ารู้สึกอย่างไร ผมก็…เผลอเป็นเหมือนกับคุณญี่ปุ่นน่ะ”

 

“…”

 

…เผลอ…

 

“แล้วผม…มีสิทธิที่จะชอบไทยซังได้ไหมครับ?”

 

…แค่เผลอก็ยังดี…

 

“แล้วผม…สามารถที่จะอยู่เคียงข้างไทยซังได้ไหมครับ?”

 

…แค่นี้ก็ดีแล้วสินะ?…

 

“แล้วผม…สามารถที่จะสัมผัสไทยซังได้ไหมครับ?”

 

…ดีแล้วสินะ?…

 

“ไทยซัง…”

 

กลั้นใจไม่ได้ที่จะเผลอรักหรือชอบขึ้นมา ต้องคอยทำท่าทางอดทนไม่ให้ออกหน้าออกตาว่า ‘รัก’ เกินไป ต้องคอยปกปิดความรู้สึกที่แท้จริงโดยแสดงละครราวกับ ‘ตัวตลก’ แต่ตอนนี้ความอดทนมันหายไปหมดแล้ว เขาได้เผลอจับคนตรงหน้าทั้งจูบ สัมผัสและมอบความร้อนรุ่มให้ น้ำตาเริ่มไหลระบายออกมาเปรอะเปื้อนโดนใบหน้าคนที่อยู่ด้านล่างพอเห็นแบบนี้ก็รีบซบอกของคนคนนี้ทันที

 

…ไม่อยากให้เห็น…

 

…ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความต้องการ…

 

…ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเจ็บแบบนี้…

 

…เขาไม่อยากให้เห็น…

 

เพี๊ยะ!!

 

นิ้วที่ดีดหน้าผากเขาราวกับกำลังเตือนไม่ก็ตั้งสติให้กลับมายังโลกปัจจุบัน เขาค่อยๆเงยหน้าขึ้นจากนั้นก็ปาดน้ำตาออกโดยปลายนิ้วของคนตรงหน้าที่เข้ามาช่วยเช่นกันกับการที่จู่ๆก็โดนจับหน้าแถมยังโดนสัมผัสผ่านริมฝากด้วยสัมผัสที่แสนอ่อนหวานหรืออาจจะเรียกว่าสัมผัสอันแสนอ่อนโยนไร้ความต้องการมากเกิน

 

พอโดนแบบนี้ญี่ปุ่นก็ค่อยๆผละออกพลางจ้องมองสบตาคนตรงหน้าที่ฉีกยิ้มบางๆและเขาก็ยื่นหน้าไปสัมผัสที่เดิมอีกครั้ง โดยเพิ่มความหนักแน่นของการประทับริมฝีปากให้หนักและหวานมากขึ้น ยิ่งผละออกจากการยิ่งต้องการรสจูบมากขึ้นก็เลยตัดสินใจสอดปลายลิ้นแตะกลีบปากแล้วสอดเข้าไปเพื่อคว้าหาความหอมหวาน

 

กลิ่นขนมหวานกับน้ำผลไม่ที่พึ่งกินไปยิ่งเพิ่มความหอมหวานภายในข้างในริมฝีปากของทั้งคู่ ญี่ปุ่นไม่รอช้าที่จะขยับมือตนเองให้ไปจับฝ่ามือของคนตรงหน้าเพื่อเกาะกุมเอาไว้ให้รู้ว่าสถานะของคู่ตอนนี้คืออะไร

 

ส่วนมืออีกข้างก็ค่อยๆเถิกเสื้อขึ้นแล้วเชิญชวนให้ตัวของเขามาชื่นชมกับร่างกายที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อเล็กน้อยไม่เชิงว่ามากเกินไปหรือน้อยเกินไป จึงรู้ว่าไทยยังคงฝึกซ้อมมวยไทยของตนเองอยู่รวมทั้งปลายนิ้วมือที่ขยันทำงานจนด้านนิดหน่อยแต่ก็ยังคงความนุ่มนิ่มที่ตอนนี้ได้แตะแก้มเขาอย่างกับว่ากำลัง ‘อ้อน’ วอนให้เขาเข้ามาใกล้ๆ

 

“ไทยซัง…ยอมรับเหรอครับ?”

 

“…ก็…จะว่ายังไงดีล่ะครับ สำหรับผมแล้วถ้าเกิดไม่มีคุณญี่ปุ่นก็ไม่เป็นไรแต่มันกลับ ‘เหงา’ ขึ้นมาทันทีเมื่อคิดแบบนนั้น”

 

“ไทย…” กำลังจะเรียกชื่อคนตรงหน้าแต่ก็โดนประกบปากปิดซะก่อน

 

“กรุณา…มอบความรู้สึกคุณที่มีต่อผมหน่อยนะครับ คุณญี่ปุ่นไม่สิ…คุณคิคุ”

 

“…!?” โดนเรียกชื่อแบบนี้ก็มิอาจทนต่อไปได้ รีบยื่นหน้าเข้าไปประกบปากจูบ “ไทยซังทำให้ผมอยากแกล้งนะครับ”

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า…ก็แกล้งสิครับ ผมไม่ว่าอะไรนี่นา”

 

“…นิสัยไม่ดีครับ เอกราชซัง”

 

“…คุณก็เช่นกันนะ คุณคิคุ”

 

“งั้นเอาเป็นว่า…ผมขอ ‘กิน’ คุณก่อนนะครับ เอกราชซัง”

 

“นี่…คุณคิคุที่จริงเป็นคนแบบนี้สินะครับ?”

 

“อะฮ่าฮ่าฮ่า นั่นสินะ…ครับ”

 

เริ่มต้นด้วยการจูบเช่นเดิมแต่ที่เพิ่มเติมนั้นก็คงจะเป็นมือที่ไม่อยู่สุขของญี่ปุ่นที่กำลังสัมผัสร่างกายนี้ให้ตอบรับความต้องการจนไทยเองก็เริ่มเอื้อมมือไปเกาะบ่าแล้วจับแน่นๆคลับคล้ายราวกับกำลัง ‘กลัว’ ที่จะโดนสัมผัสไปมากกว่านี้ เขาจึงบรรจงเปลือกตาอย่างแผ่วเบาเพื่อปลอบประโลมไม่ให้กลัวหรือคิดจะห้ามให้หยุด

 

แต่มันช่างกลับกันสุดๆเพราะร่างนี้กำลังตื่นเต้นซะมากกว่าที่จะกลัวการสัมผัสของคนตรงหน้า ไทยเองก็อยากให้คนตรงหน้าสัมผัสมากกว่านี้ เล้าโลมมากกว่านี้ รุนแรงมากกว่านี้ เพราะไม่เช่นนั้นเขาจะสติแตกจนต้องเผลอครางออกมาดังๆแน่

 

อย่างไรก็ตามทางคนที่กำลังไล้เลียแผงอกนี้แถมก็ไม่ยอมรุนแรงมีแต่จะเพิ่มให้ร่างกายคนด้านล่างร้อนมากขึ้นและก็เอาแต่ปิดปากไม่ยอมพูดหรือครางออกมา แต่สุดท้ายน้ำเสียงหวานก็เริ่มร้องออกมาโดยทำเสียงอืออาในลำคอ…ทำแบบนี้เขาก็อยากจะแกล้งให้มากขึ้น โดยการเอื้อมมือไปสัมผัสขาอ่อนบรรจงกับการจูบเม้มปากทิ้งรอยการเป็นเจ้าของเอาไว้ ทางไทยเห็นแบบนี้ก็หลับตาแถมปิดหน้าปิดตาอีก

 

…คงอายสินะ…

 

“เอกราชซัง น่ารัก”

 

“อือ…บ้า คุณคิคุบะ…อ๊า!!”

 

อยู่ดีๆหนุ่มญี่ปุ่นก็ก้มหน้าลงแล้วใช้ปลายลิ้นไล้เลียหน้าท้องกับแถวๆจะถึงหว่างขาแต่ก็ไม่เชิงว่าจะถึงหรือเจาะจงเกินไป แต่กำลังแกล้วเขาอยู่ต่างหาก!!

 

“ทะ…ทำอะ…ไรครับ!?”

 

“ก็กำลังแกล้งอย่างไงล่ะครับ” พูดไปพลางยังคงทำต่อไป

 

“อื่อ! อย่า…”

 

สิ้นสุดน้ำเสียงรอดแล่นจากปากของหนุ่มไทยที่ตอนนี้เปล่งเสียงไม่ออกเลยสักนิด ที่ร้องไม่ออกก็คงจะมาจากการแกล้งของร่างที่คร่อมอยู่ที่เขาก็เอาแต่สัมผัสส่วนที่เสียววูบแถมยังใช้ปลายนิ้วลูบไล้ต้นขาไม่ก็บีบอีก คงต้องเรียกว่าเป็นการ ‘กระตุ้น’ เขาคนนี้ให้รู้สึกหรือมีอารมณ์มากว่านี้งั้นเหรอ?!

 

แถวๆช่วงเบื้องล่างของเขาเริ่มมีอาการร้อนรุ่มมากขึ้นจนได้ออกอาการแสนน่าอายโดยความต้องการที่ออกมาให้เห็นนั้นได้อย่างชัดเจน คนที่โลมเล้าเขาเห็นตรงนั้นกำลังตื่นตูมก็แอบแตะไม่ก็ลูบมันเบาๆ

 

…อยากแกล้งให้มากกว่านี้…

 

…แต่ก็ขอแค่นี้ก่อนก็แล้วกัน…

 

“เอกราชซังอยากให้ผมนำหรือคุณจะเป็นคนนำเอง?” ถามไปพลางกระชากให้คนที่นอนมานั่งบนตัก พลางกระตุกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

 

“ถะ…ถามอะไรครับเนี่ย?!” หน้าของไทยเริ่มแดงมากขึ้น

 

“ผมถาม…อยากนำหรืออยากให้ผมนำเอง?” แอบใช้ปลายนิ้วปาดแถวสะโพกเบาๆ

 

“อ๊ะ!?” คนที่โดนแกล้งกระตุกเล็กน้อยและสบตามองทันทีด้วยความเขินอาย “คุณคิคุ…นำสิครับ”

 

“…จริง?”

 

“ครับ…อ๊ะ!!”

 

พอตอบไปตามตรงๆก็ยิ่งโดนคนที่แกล้งเข้ามาลูบไล้สัมผัสมากขึ้น ใช้ฝ่ามือลูบต้นขาส่วนอีกข้างก็ลูบแผงอกและริมฝีปากก็ประกบจูบบริเวณลำคอ เอาอีกแล้ว…กับการโดนแบบนี้มันเหมือนกำลังหยอกล้อเขาเล่นอยู่ ถึงจะเป็นแบบนั้น…คนคนนี้ก็เริ่มสัมผัสเขาอย่างหนักหน่วงไร้ความอ่อนโยนอีกต่อไป

 

ใช้ปลายนิ้วลองแตะช่องทางของด้านหลังแล้วกระซิบถามข้างๆว่า ‘ครั้งแรกสินะ’ โดนถามแบบนี้ก็เริ่มเขินขึ้นมาไม่ก็อยากจะตีหลังคนคนนี้ให้หยุดแกล้งเขาได้แล้ว คนกระซิบถามเริ่มหัวเราะออกมาราวกับเป็นเรื่องตลกโดยไม่ลืมที่จะสนใจกับจุดมุ่งหมายของตนเอง

 

ค่อยๆสอดปลายนิ้วแรกเข้าไปแล้วจากนั้นก็เล้าโลมเบาๆมือเท่าที่จะทำได้ เมื่อโดนทำแบบนี้ก็ทำให้ร่างกายของตนเองแปลกขึ้นมา ร่างกายเริ่มสั่นแปลกๆ หัวใจก็เช่นกันที่กำลังเรียกร้องความต้องการให้คนตรงหน้าสัมผัสมากกว่านี้ โดยอยากให้เพิ่มความต้องการให้กลายเป็น ‘ปรารถนา’ ต้องการคนตรงหน้ามากขึ้น

 

เริ่มโดนเล้าโลมจากช่วงล่างไม่หยุดแถมยังเพิ่มจำนวนนิ้วจากหนึ่งกลายเป็นสอง เขาที่เอาแต่อดกลั้นเสียงก็ทนไม่ไหวจึงส่งเสียงร้องออกมาดังๆแถมยังข้างๆใบหูร่างสูงอีก ญี่ปุ่นสะดุ้งเล็กน้อยกับน้ำเสียงแสนหวานลื่นหูนี้ปะปนกับร่างกายที่ดูยั่วยวนไม่แพ้กัน เขาค่อยๆเอาแว่นตาร่างที่ครวญครางออกมาวางไว้บนโต๊ะ ปล่อยให้ร่างนั้นสูดอากาศเข้าลึกๆเพราะเมื่อกี้คงจะรู้สึกดีเสียจนกลั้นหายใจ

 

“หวาาาา!?” จู่ๆก็โดนอุ้มมาวางไว้บนเตียงแล้วก็ยังโดนจูบอีก

 

“ตรงนี้น่าจะดีกว่านะครับ”

 

“เอ๋…ทะ…ทำไมล่ะครับ?”

 

“อยาก ‘เจ็บ’ มากกว่านี้หรือไงครับ?”

 

“เจ็บ…จะ…” อยู่ดีๆหนุ่มญี่ปุ่นก็แหย่ช่วงล่างเล่นจนเขาแสดงสีหน้าตรงตรงว่าเจ็บจริงๆ “ทำ…ทำอะไรน่ะครับ?!”

 

“ต้องเล้าโลมก่อนเพื่อเปิดช่องว่าง แต่…” ยื่นหน้าไปใกล้ๆใบหู “ผมทนไม่ไหวแล้วล่ะ ก็เอกราชซังทำตัวน่ารักเอง”

 

“ตะ…ตรงนะ…อื่อ!!”

 

ยิ่งพูดก็ยิ่งโดนแกล้งอย่างหนักจนเขาเองก็พึ่งจะรู้ว่าที่จริงๆเขาก็ต้องการให้กลายเป็นแบบนี้สินะ? ให้กลายเป็นอย่างที่คนตรงหน้าต้องการ ให้เป็นอย่างที่คนตรงหน้าโปรดปราดจะให้เป็น

 

ค่อยๆปล่อยกายและใจไปกับปลายนิ้วที่กำลังสัมผัสเนื้อบนและล่าง ปล่อยให้เข้ามาอย่างง่ายดาย พลางเผลอเปล่งน้ำเสียงครางหวานออกมาไม่หยุด ญี่ปุ่นกระตุกร่างที่เกร็งให้ตอบสนองความต้องการมากขึ้นโดยเริ่มสอดแก่นกายให้เข้าไปเสียดสีภายในของร่างบางและก็ได้โดนจุดสำคัญเข้าโดยไม่ได้จะตั้งใจจากใจจริงๆ

 

ร่างที่อยู่ข้างล่างเผลอร้องเสียงหลงออกมาครั้งเดียว…ครั้งเดียวที่ทำให้สติสัมปชัญญะของเขาต้องขาดสะบัด เส้นสีแดงที่เป็นดั่งเส้นกั้นของความอดทนอดกลั้นของอีกฝั่งที่กำลังจะตื่นขึ้นมา เขาเริ่มรู้สึกว่ากำลังมีคนอีกคนกำลังออกมาจึงผ่อนแรงให้แก่นกายนี้ไม่ขยับให้มากหรือเร็วเกินไปจนไทยนั้นจะร้องเสียงหวาน

 

“คะ…คิคุ”

 

“…”

 

…อา ไทยซัง…

 

…คุณผิดเองนะ ที่ทำตัวน่ารักแบบนี้…

 

“คะ…อ๊าาาาาาา!?”

 

น้ำเสียงครางหลุดออกมาจากปากของร่างบางที่ร่างสูงนี้ได้แสยะยิ้มออกมาอย่างภูมิใจในผลงานที่เขากำลังจะทำให้คนด้านล่างนี้…ปรารถนาเพียงแค่เขาคนเดียว

 

นัยน์ตาแดงเลือดเมื่อมองกี่ครั้งกี่หนก็น่ากลัวเสียเหลือ ยิ่งคนคนนี้ได้ไปอยู่ช่วงสงครางก็ยิ่งสยดสยองกับผลงานชิ้นเอกของ ‘ฮอนดะ’ ที่เป็นบุคลิกที่ออกจะกระหายในสงครามสุดๆ ไม่ปรานี ไม่อ่อนข้อ ไม่ยอมแพ้ ไม่อ่อนหวานและไม่สนใจ…กับความรู้สึกของคน

 

“คิดถึงจังเลยนะครับ ไทยซัง…ไม่สิ เอกราชซัง” ใช้ปลายลิ้นบรรจงลากบนฝ่ามือตนเองเพื่อที่จะทำให้คนตรงหน้าเขาต้อง ‘กลัว’ หรือ ‘ต้องการ’

 

“คะ…คุณฮอนดะ…!”

 

 

กำลังจะเอ่ยชื่อออกมาแต่ก็โดนประกบปากจูบด้วยอารมณ์กามที่หื่นกระหายคล้ายกลัวว่าร่างนี้จะเลือนหายไป ฮอนดะที่จะได้เจอกับไทยนั้นน้อยมากจนตอนนี้ฝ่ายไทยเองก็คงจะรู้แล้วว่ากำลังจะโดนคนคนนี้ทำอะไรบ้างเสียแล้ว

 

“เอกราชซัง คิดถึงจังครับ…”

 

“อือ…คะ…คุณฮอนดะ…”

 

ไม่อยากจะให้สติมันเลือนหายไปมากกว่านี้ แต่เพราะปลายลิ้นเข้ามาเสียดสีกับโพรงปาก ริมฝีปากและปลายลิ้นของร่างบางไม่หยุด เบิกตาโตตกใจกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อจากนี้โดยแก่นกายที่ยังคาอยู่ได้ขยับขึ้นเบาๆ ทั้งๆที่…ครั้งแรกฮอนดะจะไม่อ่อนโยนกับเขาเลย มีคิดจะลากเขามาเข้าสงคราม บังคับโดยข่มขู่ ไม่เหมือนกับ ‘คิคุ’ ที่คอยยิ้ม อ่อนโยน ปลอบโยนและอยู่เคียงข้างคอยให้กำลังใจ

 

พอมาสบตาจ้องมองตรงเข้าไปให้ลึกเสียจนฮอนดะเองที่กำลังหมกมุ่นอยู่กับการลวนลามร่างกายของเอกราชอยู่นั้นก็เผลอสบตามองด้วยเช่นกัน ค่อยๆเผยอริมฝีปากออกมาเล็กน้อยจากนั้นก็ยื่นเข้าไปหาคนตรงหน้าราวกับกำลังยอมรับให้คนคนนี้เข้ามาภายในข้างในของหัวใจ

 

กลีบปากบนกำลังคลอเคลียหยอกเล่นกลีบปากของร่างสูงจนหัวใจเขานั้นเต้นตึกตักจนกระทั่งสั่นไหวไปทั้งกายกับสิ่งที่ร่างนี้ได้ทำ ทนไม่ไหวที่จะควบคุมความปรารถนาส่วนลึกให้เผยออกมา

 

ร่างบางกระตุกเกร็งเสียจนปลายนิ้วเริ่มจิกเข้าที่แผ่นหลังของคนตรงหงน้าที่ได้ขยับแก่นกายของตนเองอย่างชำนาญ กดแก่นกายลึกๆและได้กดจี้จุดส่วนที่อ่อนไหว ร่างบางเผลอปล่อยกายให้ตนเองนั้นเปล่งเสียงครางแสนหวานหูออกมา

 

ฮอนดะรู้สึกพออกพอใจยิ่งนัก รอยยิ้มของเขาได้เผยออกมาเด่นชัดเสียจนเอกราชเองก็ต้องเอื้อมมือเข้าไปแตะแก้มของคนที่กระทำเรื่องสุดแสนจะน่าอาย ปลายลิ้นนุ่มค่อยๆบรรจงลากแล้วเลียปลายนิ้วของร่างบางอย่างหื่นกระหายกามเป็นยิ่งนัก พอโดนแบบนี้คนอยู่ข้างใต้ก็เริ่มส่งเสียงครางภายในลำคอและขยับมือให้หยุดแต่สุดท้ายลิ้นของร่างสูงก็ได้เข้ามาไล้เลียเนินอก ทั้งจูบ กัดและหยอกล้อเนินอกเนียนของร่างบาง

 

ส่วนแก่นกายนี้ก็ได้ทำการขยับต่อไปเพื่อปลุกเร้าอารมณ์โหยหาความต้องการให้มากยิ่งขึ้น คนข้างใต้เอาแต่ส่งเสียงครางพร้อมกับเสียงหอบสลับไปมาไม่หยุด พูดไม่เป็นภาษาราวกับกำลังทรมานแต่มันไม่ใช่ทรมานเลยสักนิด…ทำให้ต้องยื่นหน้าเข้าไปจูบเพื่อขอร้องอ้อนวอนให้ทำต่อโดยไม่ต้องหยุด ยิ่งลิ้นที่รัดเกี่ยวพันกันสลับไปมาได้ก็ยิ่งทำการกระตุ้นร่างทั้งสองให้ร้อนรุมไม่หยุด

 

หนุ่มชาวญี่ปุ่นค่อยๆผละการจูบของคนที่อยู่ข้างใต้เขา ส่วนร่างที่โดนผละก็ค่อยๆตั้งสติสบตามองคนตรงหน้าขึ้นมา

 

“เอกราชซัง…คิดถึงผมบ้างไหม?” ใช้ปลายจมูกคลอเคลียบนแก้มเนียนนุ่มเบาๆ

 

“ผม…” หน้าเริ่มแดงฉานขึ้นสีด้วยความเขินอายกับการกระทำของฮอนดะ “ทำอย่างนี้ผมก็อายนะครับ”

 

“อย่าเปลี่ยนเรื่องครับ ตอบมา…”

 

 

เริ่มกดแก่นกายหนักๆแถมยังกดถูกจุดอีกด้วย “อื่ออออ~~~~!!!”

 

…คุณฮอนดะโรคจิต…

 

“ถ้าไม่ตอบ ผมจะขยับแรงๆนะครับ” ปากพูดไปแบบนั้นแต่ก็ยังขยับและกดลงไปแรงๆ

 

“อ๊ะ?!!!” ร่างบางสะดุ้งแถมยังเกร็งอีก “ยะ…หยุดได้แล้วครับ ผมจะพูดไม่ออกนะ”

 

“เอ๋? ไม่ได้ยินครับ…!” แกล้งอีกนิดโดยเปลี่ยนท่าให้ร่างข้างใต้มานั่งบนตักแทน “ขอฟังเสียงคุณดังๆจะได้ไหม?”

 

กระซิบข้างๆใบหูร่างบางแล้วบรรจงจูบใบหูเบาๆ “อ๊ะ!! …คุณฮอน…ดะ ขี้แกล้ง”

 

“ว่าอย่างไงนะครับ?”

 

เจ้าตัวหยุดแกล้งเพื่อฟังน้ำเสียงนี้อย่างตั้งอกตั้งใจ ไม่ลืมที่จะเงยหน้าจ้องมองคนอยู่บนตักด้วยอารมณ์ยังหิวกระหายอยู่ พอโดนจ้องแบบนี้ก็ชักสีหน้าเขินอายขึ้นมา

 

 

ผมที่โดนเซ็ตมาอย่างดีตอนนี้ได้ย้อยลงมาปรกหน้าผากจนเกือบทิ่มลูกตาสาเหตุก็คงจะเป็นเหงื่อของร่างบางเองเพราะอากาศรอบๆนี้เริ่มร้อนขึ้นมาจนเขาจะเป็นบ้าแล้ว ยิ่งโดนกดดันด้วยสายตานี้ก็แทบจะคุมสติไม่อยู่เริ่มขยับร่างกายให้แก่นกายขอคนตรงหน้าที่ยังคงค้างคาอยู่ขยับขึ้นลงแบบนี้จนฮอนดะยังเผลอเคลิ้ม

 

“ผม…คิดถึงคุณ…คุณ…ฮอนดะ!!”

 

 

เผลอขยับเองทั้งหมดจนร่างสูงต้องขยับเองขึ้นมา ร่างบางกระตุกเกร็งอีกครั้งเพราะคราวนี้ทั้งเขาและคนตรงหน้าต่างก็เสร็จสรรพโดยฝีมือของเขาเองที่เป็นคนกระตุ้นร่างสูงขึ้นมา น้ำกามเปรอะเปื้อนไปทั่วหน้าท้องทั้งสองที่ยังคงนั่งท่าเดิมโดยสูดอาการหายใจเข้าออกอย่างเหนื่อย เพราะไม่เชิงว่าจะเสร็จไปกี่รอบแต่ต่างก็กระตุ้นให้ต่างฝ่ายต่างมีอารมณ์ร่วมกัน

 

เอกราชค่อยๆถอนแก่นกายออกจากนั้นก็ปล่อยให้ร่างตนเองซบบนแผงอกแกร่งนี้เบาๆ ปลายนิ้วมือของฮอนดะค่อยๆคลอเคลียเส้นผมที่ปรกหน้าร่างนี้เบาๆจากนั้นก็ยื่นหน้าบรรจงจูบตาม คนที่โดนจูบเริ่มเงยหน้าขึ้นเข้าไปประกบปากจูบตาม เมื่อจูบกันอีกรอบคราวนี้สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ฮอนดะเริ่มฉีกยิ้มหวานเผยความเจ้าเล่ห์มาอีกรอบโดยเวลานี้ก็ผ่านมาได้ 5 นาทีในการพักเหนื่อยของหนุ่มไทยคนนี้

 

เขาค่อยๆจับร่างคนตรงหน้าวางเอาไว้บนเตียงจากนั้นก็บรรจงลูบคล้ำเรือนร่างของคนคนนี้ให้เกิดอารมณ์อีกครั้ง แต่คราวนี้ไม่อ่อนโยนกว่าเมื่อกี้ซะอีก คนที่ลวนลามเริ่มกระซิบข้างๆใบหูของร่างข้างใต้โดยคำประโยคนี้ทำให้ร่างบางต้องงะชักพร้อมกับหน้าแดงก่ำขึ้นมาทันทีที่แก่นกายได้เข้ามาภายในร่างของเขา

 

“นึกว่าผมจะอ่อนโยนงั้นเหรอครับ?” ขยับร่างตนเองเล็กน้อยจนร่างบางนั้นชักสีหน้าแดงพร้อมกับเสียงหอบขึ้นมา

 

“คุณ…ฮอนดะอย่า…ได้โปรด…”

 

“เคยรู้ไหมครับ?”

 

“รู้…อะไรครับ?”

 

“ว่าถ้าหาก…” จับมือเอกราชมาแนบกับริมฝีปากเขา “อยู่กับผู้ล่าแล้ว…ต้องโดนกินจน ตาย คาอกเพื่อให้ผู้ล่านั้นได้อิ่มอกอิ่มใจกับอาหารเลิศรส”

 

เริ่มดิ้นเล็กน้อยแต่ก็โดนล็อคมือทั้งสองไม่ให้ดิ้นไปมากกว่านี้ “ยะ…อย่า…”

 

“และเอกรายซังเองก็…อร่อยเสียจนผมมิอาจห้ามใจสัญชาตญาณตนเองไม่ได้เสียแล้ว”

 

“คุณฮอนดะ…!”

 

น้ำเสียงขาดหายไปทันทีที่โดนแก่นกายกระแทกเข้ามาตอดรัดแน่นเสียจนร่างสูงเริ่มครางในลำคออย่างพอใจ ส่วนร่างบางก็ต้องอดกลั่นมิให้เสียงตนเองเปล่งออกมาอีกครั้ง…แต่ว่า จะทนได้ไหวอีกนานเหรอครับ? …

 

…เอกราชซัง…

 

 

 

 

 

ร่างบอบบางที่อยู่ภายใต้อ้อมกอดเขาโดยมีผ้าห่มที่เขาเป็นคนคลุมมาปิดเองกำลังหายใจเข้าออกอย่างปกติราวกับกำลังหลับใหลไปตามสภาพร่างกายที่แสนจะล้าแบบนี้ แถมร่างนี้ยังเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำกามแสนยั่วเย้าอารมณ์เขาสุดๆ แต่คงต้องหยุดไว้ก่อนไม่อย่างนั้นคนที่อยู่ในอ้อมกอดนี้คงจะต้านทานไม่ไหวคงต้องสลบกลางทางตอนเขากำลังเสร็จแน่นอน

 

รอให้ถึงวันที่คนคนนี้พร้อมจะทนแบกรับร่างเขาเอาไว้ให้มากที่สุดก็คงจะอีกนาน สงสัยคงต้องได้รับการสั่งสอนสักนิดซะแล้ว แต่ช่างน่าเสียดายตรงที่ร่างนี้จะยอมให้เขาคนนี้ได้สัมผัสคนตรงหน้าก็ต่อเมื่อความอดทนมันหมดจนขาดสะบัด

 

“เฮ่อ…น่าเสียดายชะมัด”

 

“อา…คุณฮอนดะ”

 

“…”

 

…ยังมีแรงอยู่นี่นา?…

 

ค่อยๆลุกขึ้นนั่งดีๆจากนั้นก็เงยหน้าสบตามองร่างที่ยังคงไม่กลับมาเหมือนเดิม ร่างสูงส่งยิ้มบางๆแล้วยื่นมือไปลูบแก้มเนียนเบาๆ…ลูกแมว…แค่คิดก็หัวเราะหึๆภายในลำคอขึ้นมา เอกราชค่อยๆตั้งสติให้มาพูดคุยกับคนตรงหน้าตรงๆแต่ก็แอบเมื่อยกายเล็กน้อยจนเกือบจะขยับปลายนิ้วไม่ได้

 

“ผม…อยากบอกว่า…ถ้าคุณจะทำกับผมแบบนี้…” หน้าแดงขึ้นเมื่อพูด

 

“ไม่อยากให้สัมผัสงั้นเหรอครับ?” ทำสีหน้าออดอ้อนเพื่อให้เอกราชนั้นตายใจขึ้นมา

 

“ปะ…เปล่าครับ!!” รีบส่ายหน้าไปมาเพื่อไม่ให้เขาต้องทำหน้าแบบนี้ “ถึงจะรุนแรงแต่ก็เพราะ…คุณฮอนดะรักผมจนเกินไปไม่ใช่เหรอครับ?”

 

“แล้ว?”

 

“อยากให้ถะนุถนอมผมบ้าง เหมือนกับคุณคิคุ”

 

“แบบนั้น…คงจะไม่ได้น่ะครับ”

 

“เอ๋?” จู่ๆก็โดนกระชากเอวให้เข้ามาใกล้ๆจากนั้นก็โดนประกบปากจูบเบาๆ

 

“ถ้าผมทำแบบนั้น เอกราชซังก็จะคิดว่าผมกับคิคุเป็นคนคนเดียวกัน”

 

“ไม่ครับ!!” ร่างบางสบตาเข้ามาลึกๆจนเขาได้เห็นหน้าตกใจของตนเอง

 

“…”

 

“เพราะคุณคิคุกับคุณฮอนดะ…ไม่เหมือนกันสักนิด แต่ที่ผมบอกว่าอยากให้จถะนุถนอมเพราะผมอาจจะไปนึกถึงช่วงสงครามนั้นเอา…”

 

ช่วงสงครามที่ฮอนดะนั้นต้องแปดเปื้อนไปด้วยกลิ่นฝุ่น เลือด และควันจากระเบิด ที่รอบๆกายของฮอนดะนั้นเต็มไปด้วยคนตายจากสงคราม ความผิดบาปต่างๆและความหยิ่งยโสในอาวุธของตนเอง ราวกับ…นักล่าผู้หื่นกระหายเลือดของสงคราม

 

พอฮอนดะได้ฟังก็ต้องถอนหายใจแล้วจูบหน้าผากเบาๆ และนึกคิดคำพูดของคนคนนี้ข้นมา…มันก็จริงอย่างที่ร่างนี้พูด ทำให้ต้องกลัวจนสั่นไหว แต่…เขาก็คงคุมอารมณ์นี้ไม่เป็นซะด้วย

 

“เอาอย่างงี้นะครับ” ค่อยๆจับร่างนี้มานั่งบนตักพลางบรรจงจูบซอกคอหอม “ถ้าผมทำตัวแบบนี้คุณจะชอบไหม?”

 

“แบบนี้เหรอครับ?” เอกราชขมวดคิ้วเพราะยังคงงงกับคำถามนี้ ส่วนร่างสูงก็ยิ้มออกมาและยื่นจมูกไปเล่นเส้นผมด้านหลัง

 

“ขี้เล่น โรแมนติก เจ้าเล่ห์…อือ…คงจะไม่รุนแรงถึงขั้นบีบบังคับเอกราชซังน่ะครับ”

 

“แบบนั้นมันก็…อือ!”

 

สะดุ้งกับความขี้แกล้งของคนคนนี้ขึ้นมาโดยใช้กลีบปากแนบที่แผ่นหลังเนียนนี้เบาๆ “แบบนี้ได้ไหมครับ?”

 

“คะ…คนบ้า ให้ผมพูดให้จบสิครับ”

 

“ไม่ได้หรอกครับ ไม่งั้นหมอนี่จะกลับมา”

 

“…คุณคิคุงั้นเหรอครับ?”

 

“อือ เร็วๆครับ ผมจะไปแล้ว”

 

“อา…ครับ ขอแบบนี้นี่แหละ”

 

“ดีมาก”

 

 

ก่อนจะไปก็ขอจูบกลีบปากเป็นครั้งสุกท้ายตามด้วยสูดดมกลิ่นกายจากด้านหลังนี้เบาๆ เมื่อร่างนี้หายไปก็ตามมาด้วยอ้อมกอดแสนอุ่นใจแถมยังอ่อนโยนอีกด้วย คิคุค่อยๆเอาหน้าซบกับร่างที่กอดเบาๆจากนั้นก็สูดอากาศบริสุทธิ์แต่สุดท้ายก็คงมีแต่กลิ่นเอกราชซะเอง

 

“เหนื่อยไหมครับ?” คนกอดถาม

 

“ก็…นิดหน่อยน่ะครับ”

 

“แล้ว…ไม่เจ็บนะครับ?”

 

“…เจ็บครับ แต่…” หันมาหาคนด้านหลังแล้วเอาปลายจมูกคลอเคลีย “ตอนนี้หายแล้วล่ะครับ เพราะคุณฮอนดะเขา…”

 

“ได้ยินหมดแล้วล่ะครับ เจ้านั่นชอบรุนแรงคุณตลอดจนผมกลัวคุณจะเกลียดเอา”

 

“ไม่เป็นไรครับ แต่คุณก็กลับมาขอโทษแทนเขาใช่ไหมครับ?” พูดแบบนั้นก็เริ่มทำให่คนกอดต้องยิ้มออกมา

 

“รู้ด้วยนะครับ”

 

“อะฮ่าฮ่าฮ่า แน่นอนครับ”

 

ทั้งสองสบตามองกันสักพักก็เอาหน้าผากชนกัน “เพราะรักรึเปล่าครับ?”

 

“…น่าจะนะครับ” หนุ่มไทยหันหน้าหนีทันทีที่โดนคนตรงหน้าพูดแบบนั้น

 

“เขินเหรอครับ?”

 

“เปล่า…ครับ”

 

“ฮึๆ น่ารักครับ เอกราชซัง”

 

“ไม่ได้…น่ารักซะหน่อยครับ”

 

“ถ้าไม่ น่ารัก แล้วจะให้ผมบอกว่าเอกราชซัง เซ็กซี่ รึไงครับ?”

 

“คะ…คุณคิคุ?!”

 

“อะฮ่าฮ่าฮ่า!!”

 

คิคุหัวเราะออกมาแล้วเริ่มกระชับอ้อมกอดนี้แน่นโดยร่างบางนี้ได้หันมาหาจากนั้นก็เผยอกลีบปากเพื่อให้เขาคนนี้ได้บรรจงมอบจูบแสนหวานให้ จูบที่แสนยาวนานโดยไม่ต้องรุนแรงมากนัก แค่แตะกันเบาๆเพื่อสัมผัสหัวใจของคนทั้งสองที่ต่างก็ตื่นเต้นที่ได้มาอยู่ข้างกายแบบนี้อย่างยาวนาน เริ่มขยับกลีบปากเบาๆแล้วผละออกมาแล้วเอาปลายจมูกมาชนกันเบาๆ

 

“หลับไหมครับ?” เอกราชถามขึ้นมาโดยมือนี้เปลี่ยนท่าให้เขาเข้ามาหาเพื่อโอบกอดเอว

 

“ครับ แต่ขออยู่แบบนี้สักพักนะ”

 

“ได้ครับ”

 

“นี่…เอกรายซัง” เอ่ยชื่อคนที่โดนกอดขึ้นมา สายตาของร่างบางเต็มไปด้วยความสงสัยที่โดนเรียกจึงเงยหน้าสบตาตรงๆ

 

“ครับ?”

 

“…”

 

คิคุค่อยๆฉีกยิ้มหวานอ่อนละมุนเสียจนคนที่มองต้องชักสีหน้าขึ้นสีทันทีที่จู่ๆก็โดนพาร่างตนเองเอนเข้ามานอนบนแผงอกตามด้วยการกระซิบข้างๆใบหูเอกราชเบาๆจนร่างนี้จักจี้ขึ้นแต่ก็ต้องเริ่มยิ้มดีใจขึ้นมากับคำพูดของคนตรงหน้า

 

“愛しています…”

 

“…ครับ คุณคิคุ”

 

“เข้าใจความหมายเหรอครับ?”

 

“ไม่รู้อะไรกันครับ ประเทศผมก็เรียนภาษานี้เหมือนกันนะครับ”

 

“ฮึๆ แล้วคุณอยากพูดว่าอะไรกับผมครับ เอกราชซัง?”

 

“…”

 

ร่างบางหุบยิ้มเล็กน้อยจากนั้นก็ฉีกยิ้มหวานปนเขินอายขึ้นมา คำที่คนคนนี้สารภาพมามักจะเป็นคำพูดที่ประเทศตนเองไม่ชอบใช่กันมากนัก เพราะเป็นคำสารภาพที่ทำให้ร่างสูงตรงหน้าเขาต้องหน้าแดงขึ้นมาทันที แต่สำหรับไทยนั้นก็อาจจะเป็นเรื่องปกติเสียหน่อย แต่คำว่าชอบนี่น่ะสิ ไม่ค่อยจะพูดเท่าไหร่เพราะมันก็น่าอายเช่นกัน

 

“ผมก็เช่นกันครับ”

 

“ครับ?”

 

คิคุเอาแก้มแนบแก้มอีกฝ่ายจากนั้นก็ผละออกเพื่อมองคนตรงหน้าที่กำลังส่งยิ้มหวานให้แก่เขา ต่างก็ยิ้มจนจะหัวเราะออกมาแต่เพราเขาคนนี้ได้ยื่นหน้าขอคนตรงหน้าจูบอีกครั้ง ส่วนคนตรงหน้าก็ยอมซะจริงจึงพากันประกบปากจูบอีกครั้ง

 

“คุณคิคุเป็นปีศาจกระหายจูบรึไงครับ?”

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า น่าจะใช่นะครับ”

 

“ฮึ…บ้า”

 

“แล้วรักผมม๊า~~?” ช่วงโอกาสที่จะพูดก็จูบต่อจนไทยเริ่มอมยิ้มไม่หยุด

 

“ฮึๆ”

 

 

..

 

.

 

“รักสิครับ”

 

 

“ถ้าไม่รัก คงจะไม่ให้ทำแบบนี้หรอกครับ”

 

“พูดแบบนั้นผมก็อยากจูบต่อสิครับ”

 

“ปีศาจกระหายจูบ…”

 

“เอกราชซัง…”

 

“อืออออ!!! คะ…คุณคิคุเดี๋ยวๆ…!?”

 

ร่างของคิคุเข้ามาประกบปากจูบแล้วเปลี่ยนท่าอีกครั้ง คราวนี้เอกราชรู้เลยว่าไม่น่าแกล้งคนตรงหน้าเลยสักนิดเพราะคราวนี้คงจะเป็นของจริงที่คนตรงหน้าเขาไม่ใช่คิคุอีกต่อไปแต่กลายเป็นคนอีกคนที่ตอนนี้กำลังเลียริมฝีปากตนเอง

 

“ยั่วคิคุไม่พอ…มากระตุ้นอีกนะครับ เอกราชซัง”

 

“ดะ…เดี๋ยวนะครับ ผมพึ่งจะ…!!” ไม่ทันขาดคำก็โดนเอาผ้าห่มที่คลุมอยู่ออกแถมยังล็อคข้อมืออีก

 

“ตอนนี้…”

 

“…”

 

“แมวน้อยของผมต้องได้รับการสั่งสอนซะแล้วสิครับ ว่ามาแกล้งใครไม่แกล้ง…” ยื่นหน้ามาใกล้ๆจนกลิ่นกายคนตรงหน้านั้นชัดเจนสุดๆ

 

“คะ…คือผม…”

 

“เอาล่ะ วันนี้คงทั้งวันนะครับ เอกราชซัง♥”

 

“มะ…ไม่…!!” รีบหันหน้าหนีทันทีที่ฮอนดะยื่นหน้ามาหวังจะจูบ

 

จู่ๆก็ชะงักขึ้นมา “แต่…”

 

“หือ?”

 

“วันนี้ขอเป็นกอดแทนแล้วกันนะครับ เพราดูท่าคุณจะไม่มีแรงจริงๆ”

 

“…เฮ่อ~~~”

 

“ฮึๆๆ”

 

 

แต่รู้ไหมเอกราชซัง…ที่ปล่อยไม่ใช่เพราะเหนื่อยหรอก

 

แต่เป็นเพราะคุณบอกว่า ‘รัก’ ต่างหากถึงเบาลงน่ะ

 

 

“ง่วงแล้ว มานอนเถอะครับ”

 

“ครับ”

 

ฮอนดะเอาผ้ามาคลุมกายให้ทั้งตัวเขาเองและเอกราชเองที่หันหน้าหนีเขา เขาจึงยื่นมือเข้าไปกอดเบาๆแล้วหัวเราะออกมาราวกับเป็นเรื่องขบขันขึ้นมา

 

“ถ้าผมมาอีกจะได้ไหม?”

 

“ได้ครับ แต่ห้ามทำแบบนี้อีกนะครับ”

 

“ครับ~~~~”

 

ร่างสูงเอาหน้าแนบหลังร่างบางแต่ก็เปลี่ยนใจให้หันมาหาพร้อมๆกับจูบที่แก้มแล้วหลับตาลงเพื่อนอนหลับจริงๆ ทางฝ่ายร่างบางจึงชะงักเล็กน้อยจึงยื่นหน้าจูบที่กลีบปากบนเบาๆเสียจนคนที่หลับแกล้งต่อโดยกอดแน่นๆแถมยังเอาปากมาประกบจูบและพ่นลมเข้าปากจนคนตรงหน้าโวยวายออกมา

 

คนอย่างเขาควรจะหยุดลวนลามเอกราชใช่ไหม?

 

……

 

…..

 

….

 

 

..

 

.

 

ซะเมื่อไหร่ล่ะ ♥

 

 

 

 

 

Fin~~~~♥

 

 

 

 

**************************

นี่คงจะเป็น Fic แรกที่มาลงเว็บนี้ (หัวเราะ) ขอบคุณที่อ่านนะครับ

 

 

 

 

 

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว