เจอกันครั้งแรก หัวหน้าแฟนก็ทำท่าทางกะลิ้มกะเหลี่ยใส่แถมยังเสนอขอเลี้ยงเธออีกปฏิเสธไปแบบไม่ต้องคิดแต่เขานำเรื่องงานของแฟนมาขู่ลูบไล้เรือนร่างไม่นานนัก เธอก็อ่อนระทวนจนยอมให้เขา...ในที่ทำงาน!

 

 

 

พันธะซ่อนกามกับหัวหน้าแฟน [NTR] 

 

มะปราง + คุณทศ 

 

----------------------------------------------------------------- 

 

‘เจอกันครั้งแรก หัวหน้าแฟนก็ทำท่าทางกะลิ้มกะเหลี่ยใส่ 

แถมยังเสนอขอเลี้ยงเธออีกปฏิเสธไปแบบไม่ต้องคิด 

แต่เขานำเรื่องงานของแฟนมาขู่ลูบไล้เรือนร่าง 

ไม่นานนัก เธอก็อ่อนระทวนจนยอมให้เขา...ในที่ทำงาน!’ 

 

--------------------------------------------------------------------- 

 

 

แค่แรกพบกัน ท่าทาง สายตา และริมฝีปากที่คลี่ยิ้มกะลิ้มกะเหลี่ยให้แก่กันมันทำเอาเธอขนลุกซู่กับคนที่กดหัวแฟนหนุ่มของเธอต่อหน้ามากขนาดนี้ จะเรียกว่าเกลียดตั้งแต่เจอหน้ากันก็ไม่แปลก 

 

ไหนจะมาข้อให้เป็นเป็นเด็กเลี้ยงของเขากันซึ้ง ๆ หน้าอีก หากไม่ต้องกังวนเรื่องอำนาจ เธอคงจะโต้ตอบเขาไปแล้ว แต่ทำได้เพียงในใจ ต่อหน้าเพียงเค่ปฏิเสธอย่างสุภาพ และแหวนจอมปลอมเพื่อตบตาแล้วจากไป 

 

คิดว่าเขาจะเลิกความคิดต่ำ ๆ พวกนั้นไปแล้วแต่เขากลับตามติดเธอจนไม่เป็นทำงาน พูดสองแง่สองง่ามต่อหน้าพนักงานคนอื่นที่อยู่ในแพนกเดียวกันกับเธออย่างไม่คิดจะเกร็งกลัว ขู่บังคับให้เธอยอมทำตามเพื่อแลกกับหน้าที่การงานของว่าของแฟนให้มั่งคงและอาจเลื่อนตำแหน่งได้หากเธอยอมให้เขา...เป็นพันธะที่ลับซ่อนเอาไว้ในที่ทำงาน! 

 

“มองอะไร?” ถามเหมือนจะหาเรื่องกัน อีกฝ่ายเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ มือล้วงกระเป๋า หน้าก็ก้มลงมามองกันต่ำ เหมือนพวกนักเลงในหนังสมัยก่อน มะปรางคิ้วมขวด อยากตะโกนให้อีกฝ่ายเอาหน้าออกไปไกล ๆ แต่ก็ทำได้แต่ระบายยิ้มออกมา แล้วพูดกับอีกฝ่ายเสียงเบา 

 

ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมใจคิดต่อต้าน แต่ร่างกายมันถึงแสดงออกมาว่าน้อบน้อมและจะทำตามคำสั่งทุกอย่างของเขาได้ง่าย ๆ ขนาดนี้ หรือเพราะเธอติดนิสัยของพนักงานเงินเดือนไปแล้ว อะไรก็ต้องยอมกันไปก่อน เรามันเป็นแค่พนักงานชนชั้นผู้น้อย 

 

“ป...เปล่าคะ” รู้สึกเหมือนเสียงจะสั่นด้วยยามที่เอ่ยตอบเขาไป “ค...คือ...เอาเอกสารจากแผนก c มาส่งให้หัวหน้าค่ะ” พร้อมกับยื่นเอกสารในซองสีน้ำตาลให้อีกฝ่ายไป เอ่ยลาเสียงเบาหวิวมากขึ้นเรื่อย ๆ เตรียมหันเดินหนี แต่จังหวะที่เปิดประตูออกไป สะโพกของเธอก็ถูกมือหนาของหัวหน้าแสนร้ายกาจ ลูบจนขนลุกซู่ไปหมด 

 

เพียะ! 

 

รีบปัดมืออีกฝ่ายทิ้ง โชคดีที่เสียงมันดังไม่มากนัก ไม่งั้นแฟนหนุ่มของเธอที่หันหลังก้มหน้าก้มตาแก้งานต้องได้ยินแล้วหันมาเจอหัวหน้ากำลังลวนลามแฟนตัวเองเป็นแน่ โชคดีที่เธอทำทุกอย่างได้เร็วจนแม้แต่คนในแผนไม่มีใครสังเกตเห็นความผิดปกติเลยแม้แต่คนเดียว 

 

“ดุเสียด้วย” แต่คนโดนตีมือกลัยยกยิ้มร้าย เขาขยับต้อนเข้ามาใกล้ ชนิดที่ว่าอีกแค่สองก้าวหลังของเธอก็จะถูกดันไปติดกับประตูแผนก “สวยแล้วก็ดุแบบนี้แหละที่ฉันชอบ สูงสมส่วน แถมหุ่นยังเป็นรูปนาฬิกาทราย...อ่าห์” อีกฝ่ายส่งเสียงอย่างพึงพอใจ แต่เธอกลับขนลุก ไม่ชอบท่าทางที่เขาแสดงออกมาแบบนั้น อยากจะรีบผลักประตูแล้วหนีออกไป แต่อีกฝ่ายพูดหยาบคายเสียจนต้องโต้ตอบกลับไปบ้าง 

 

“แค่มองเธอก็ทำฉันขึ้นเลย เท่าไหร่ล่ะ เงินเลี้ยงดูทุกเดือนที่เธออยากได้นะ?” 

 

“แต่งงานแล้วค่ะ” ต้องโกหกเพื่อเอาตัวรอดไปก่อน แม้จะยังไม่ได้แต่งจริง ๆ แต่โชคยังดีที่แฟนหนุ่มซื้อแฟนให้เธอใส่ไปก่อนแล้ว เขาบอกว่าถือว่าเป็นการหมั้น ตอนนั้นเธอยังว่าเขาอยู่เลยว่ามันฟุ่มเฟือย แต่ตอนนี้แหวนที่เคยบ่นเหมือนจะมีประโยชน์ขึ้นมาหน่อยแล้ว 

 

“อ่อ...” อีกฝ่ายลากเสียงยาว เขารู้ได้ทันทีเหมือนกับอ่านใจได้ว่าเจ้าของแหวนคือใคร “ภรรยาของคุณชวินสินะ” หันกลับมามองเธออีกครั้ง การแสยะยิ้มเกิดขึ้นภายในเสี้ยววินาที “แต่ผมไม่ถือหรอก ภรรยาคนอื่นสิดี แบบนั้นยิ่งมันเลย” 

 

อยากจะแตะต้องเนื้อตัวเธออีกครั้ง มะปรางได้แต่มองอีกฝ่ายอย่างไม่พอใจ แล้วสะบัดหน้าเดินหนีออกมาเลย เจ้านายก็เจ้านายเถอะ ไร้มารยาทขนาดนั้น เธอไม่ทนมันแล้ว! เดินเสียงดังแทบจะเรียกว่ากระทืบเท้ามายังเคาน์เตอร์ต้อนรับที่เดิม 

 

แม้แต่เพื่อนร่วมงานยังเข้าหน้าเธอไม่ติด ต่างก็งดพูดคุยกัน เพื่อเว้นระยะ กลัวพนักงานคนสวยใจดี จะแยกเขี้ยวใส่กัน ลากยาวไปจนถึงเวลาเลิกงาน รู้อยู่แล้วว่าแฟนสุดที่รักคงต้องแก้งานยันค่ำ แต่ก็อดที่จะมาดูและถามเขาไม่ได้ 

 

“วิน” แค่เรียกเบา ๆ อีกฝ่ายก็เงยหน้าขึ้นมา ยิ้มแบบติดจะขอโทษเธออยู่กลาย ๆ เขาอ้ำอึ้งจะพูดก็ไม่ยอมพูด ท่าทางแบบนั้นมะปรางเข้าใจดี อีกฝ่ายคงไม่สามารถกลับบ้านพร้อมกันได้จริง ๆ เธอเข้าใจเขา เลือกที่จะเอ่ยลากันดี ๆ 

 

“งั้นก็ไม่เป็นไร...ตั้งใจทำงานแล้วรีบกลับมานะปรางจะรออยู่ที่บ้าน” 

 

“อืม...กลับดี ๆ นะปราง” การเดินทางกลับบ้านคนเดียวเป็นไปตามปกติ ราบรื่นมากจนพอล้มตัวลงนอนก็ลืมเรื่องว้าวุ่นใจไปโยปริยาย 

 

เธอตื่นมาแล้วเข้าทำงานพร้อมกับแฟนหนุ่ม โค้งอำลาลูกค้าที่ออกจากบริษัทหลังจากเจรจาเรื่องงานสำเร็จ จนแผ่นหลังของลูกค้าหายลับไป ก็ยืดเต็มตัวอีกครั้ง แต่คราวนี้เธอไม่ได้อยู่เพียงแค่คนเดียว เพราะคุณทศ เจ้านายสุดร้าย กลับมายืนอยู่ใกล้ ๆ ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ 

 

“ว่างไหม” พอเห็นว่าเธอมองเขาอยู่ก็รีบพูด ใช้อำนาจของคนมีตำแหน่งสูงหว่าในทางที่ไม่ควรทันที “มาคุยกันหน่อย มีเรื่องอยากคุยด้วยแบบส่วนตัว” แน่นอนว่าถึงจะเกรงตำแหน่งเขา แต่ก้ไม่กลัวที่จะปฏิเสธ 

 

“ยังอยู่ในเวลาทำงานอยู่จึงไม่สามารถออกไปกระทันหันได้ค่ะ” พูดแค่นั้น แสดงหน้าตาแสนเรียบเฉย ทำเหมือนอีกฝ่ายเป็นเพียงธาตุอากาศ ก่อนจะเดินกลับ แล้วนั่งลงทำตัวให้ยุ่งกับงานหน้าคอมพิวเตอร์ แน่นอนว่าท่าทีแบบนั้น ทำยังไงก็สะลัดคนหน้าหนาได้ไม่สำเร็จง่าย ๆ 

 

“ไม่เอาสิคุณปราง” จากที่ไม่มองก็หันควับ เธอไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายไปรู้ชื่อเล่นมาจากไหน แถมยังใช่น้ำเสียงเรียกเหมือนเราสนิทกันมานานอีก “คุณก็รู้ว่าผมเป็นญาติกับใคร แค่ไปคุยกันแบบส่วนตัวไม่นานเอง ใครมันจะกล้าปากโป้งตำหนิคุณเรื่องงานได้” 

 

เหมือนส่งคำเตือนกลาย ๆ ไปให้พนักงานอีกสองคนที่อยู่เคาน์เตอร์ต้อนรับฝั่งตรงข้ามว่าไม่ให้พูดมาก ประเดี๋ยวอาจตกงานไม่รู้ตัว ไม่จำเป็นต้องส่งสายตาเตือน เพื่อนร่วมงานเธออีกสองคนที่อยู่ใกล้ก็กลัวจนหัวหด 

 

“ขอปฏิเสธค่ะ” แต่เธอก็ยังเลือกปฏิเสธเขาเหมือนเดิม จ้องคอมไม่วอกแวก ให้ท่าทีตั้งใจทำงานไล่อีกฝ่ายทางอ้อม คุณทศหัวเสีย เขาพ่นลมหายใจเสียงดัง ก่อนจะใช้ไม้เด็ดกับผู้หญิงใจแข็งตรงหน้า เท้ามือก้มหน้าเข้าใกล้ กระซิบให้ได้ยินกันสองคน แต่ทำเอาคนฟังใจสะท้าน มือที่พิมพ์อยู่ถึงกับค้างอยู่ท่าเดิม เพราะมันเกี่ยวกับใครอีกคนที่สำคัญกับเธอมาก 

 

“แล้วถ้ามันเกี่ยวกับคุณชวินคุณไม่คิดจะสนใจเลยงั้นสินะ” ยิ่งเธอมองเขาแบบจ้องหน้าเอาเรื่องอีกฝ่ายยิ้มยิ้มสะใจ “มาเถอะ เข้ามาคุยกับผมเป็นการส่วนตัวหน่อย ผมมีเรื่องที่ต้องพูดเกี่ยวกับแฟนคุณเยอะเลย อย่างเช่น...” เว้นวรรค เพื่อใช้ถ้อยคำที่ชักจูงเธออย่างเห็นได้ชัด 

 

“ไล่สามีคุณออก แล้วหาคนที่ฉลาดกว่าเขามาทำหน้าที่นั้นแทนนะ” ต่อให้รู้ว่ามันเป็นคำลวง เป็นกับดักที่อีกฝ่ายวางเอาไว้ ล่อกระต่ายไร้ทางสู้กับคนที่มีอำนาจมากกว่าอย่างเธอให้หลงเข้าไป สุดท้ายก็ต้องเดินเข้ากับดักนั้นด้วยตัวเองอยู่ดี 

 

เขาเป็นเจ้านาย...เขาย่อมมีอำนาจใหญ่มากกว่าเธอสองคนเสมอ ถ้าเจ้านายต้องการ ไม่ต้องแม้แต่จะอ้อนวอนเลย แค่ต้อต้านยังทำไม่ได้ เลยมีแค่การเดินตามเขาไปเท่านั้น มันอาจจะพอช่วยว่าที่สามีในอนาคตของเธอได้ไม่มากก็น้อย เธอหวังว่ามันจะเป็นแบบนั้นจริง ๆ 

 

“นั่งสิ” เขาพาเธอเดินมาในห้องประชุมหมายเลขสี่ เป็นห้องที่มีขนาดเล็กที่สุด อยู่มุมอับที่สุด และไม่ค่อยถูกใช้งาน ภายในห้องมีโต๊ะรูปวงรี และเก้าอี้นับสิวางรอบ มีแค่โต๊ะเดียวที่ใหญ่สุดและแยกอยู่ตรงมุมขวาของห้อง ชิดกำแพงสีขาวสะอาด นั้นคือที่ที่คุณทศนั่งลงก่อนที่จะเชิญเธอ 

 

“คุณรีบพูดมาเถอะค่ะว่าคุณต้องการอะไร?” รีบเข้าเรื่อง ไม่อยากให้อีกฝ่ายประวิงเวลา เธอไม่อยากอยู่กับเขาเพียงแค่สองคน 

 

“เร่งกันจริง” เขาเย้าแหย่ไม่หยุด แถมยังใช้คำพูดแสนหยาบโลนที่ทำเอาเธอแก้มร้อนผ่าวไม่เลิก ไม่รู้ว่ามันเขินเพราะเธอไม่ใช่ผู้หญิงกร้านโลกหรือโกรธเพราะเขาใช้คำพูดเชืงนั้นดูถูกเธอกันแน่ “เป็นผู้หญิงประเภทที่ชอบให้ทำเร็ว ๆ สินะ” 

 

“สำรวมเถอะค่ะ คุณเป็นเจ้านาย แถมอายุยังมากกว่าฉันอีกนะคะ” เอ่ยเตือนรอดไรฟัน จ้องตาอีกฝ่านชนิดที่เอาให้เขารู้ไปเลยว่าเธอจะไม่ยอมเขาอีกแล้ว 

 

“ดุแบบนี้แหละใช่เลย” เขาเข้ามาใกล้มาก เปลี่ยนมานั่งลงบนเก้าอี้ข้าง ๆ เธอแม้จะอยู่ในระดับเดียวกัน แต่ความสูงของเขาก็ทำให้เธอเตี้ยกว่ามาก ใช้ฝ่ามือช้อนคางเธอขึ้น เจ็บจนนิ่วหน้าเพราะเขาออกแรงบีบ แต่เธอก็ยังไม่ยอม ทำหน้าไม่กลัวเขาสู้กลับไปอีก 

 

“เพราะอย่างนี้ไง ฉันถึงเอาแต่ฝัน...ถึงเธอทั้งคืนเลย” ดึงเก้าอี้ของเธอเข้าหาตัวเขา ล้อทั้งสี่ บวกกับพื้นกระเบื้องแสนลื่น ไม่ยากเลยที่แค่ดึงทีเดียว โต๊ะเธอก็ถูกเหวี่ยงไปชิดอีกฝ่ายรวดเร็วทันใจ “อยากได้จนตัวสั่นไ...สั่นไปหมดแล้วคุณปราง” 

 

“ปล่อยนะ!” 

 

“ไม่ปล่อย” เธอขัดขืน แต่ยิ่งดิ้นเหมือนยิ่งถูกอีกฝ่ายรัดแน่น ภายในเสื้อผ้าและท่าทางของคนวัยกลางคนมันทำให้เธอดูไม่ออกเลยว่าเขามีกล้ามเนื้อและแรงกายที่มากล้น อีกฝ่ายขยับเข้าหาได้ง่าย แถมยังส่งมือมาลวนลามเธอได้ง่ายอีกเช่นกัน มือหนาลูบวนช่วงร่างกายส่วนบน ดิ้นขยับเท่าไหร่ ก็เหมือนมันเสนอตัวให้อีกฝ่ายแตะต้องกันได้ง่ายมากขึ้นเท่านั้น 

 

“ป...ปล่อย...น....นะ” เสียงก็ตะกุกตะกัก เบาหวิวจนน่าเป็นห่วงว่าเสียงต้องห้ามแห่งความรู้สึกวาบหวามมันจะดังออกมาหากันแทน ยิ่งมือหนามันสอดผ่านกระดุมเสื้อเข้าหาเธออีกแรงด้วยแล้วแบบนี้ มันยิ่ง... 

 

“อื้อ!” อ่อนระทวยคาฝ่ามือเขาอย่างรวดเร็ว ร่างของเธอถูกเขาลูบไล้ ขนกายลุกซู่ เหมือนท่านั่งจะทำให้เขาแตะต้องได้ไม่หนำใจ ดึงลุกขึ้นจากเก้าอี้ มือก็ลูบลงต่ำ ลากลงจากสะโพกบางลงไปหาต้นขาด้านล่าง ก่อนเขาจะลูบย้อนขึ้นโดยเร็ว จนชายกระโปรงทรงเอ พอดีตัว จะเลิกขึ้นมาจนเห็น ถุงน่องเต็มตัวที่มันแทบผิดซับในไม่ได้เลยแม้แต่น้อย 

 

“แอบเซ็กซี่เหมือนกันนะเนี่ย” เขาผิวปาก จ้องสายตาโลมเลียไล้มองทรวดทรงของเธอที่ถูกใจเขาจนอดใจให้แตะต้องกันในที่ทำงานยามบ่ายไม่อยู่ “คิดจะยั่วผมละสิ ถึงได้ไม่ใส่กางเกงซับกันเอาไว้อีกชั้นหนึ่ง จนมองเห็นอะไรต่อมิอะไรได้ง่ายแบบนี้ ไม่เบาเลยนะคุณปราง...อ่าห์” 

 

“ม...ไม่ใช่นะ...อื้อ..ป...ปล่อยสิ!” สุดท้ายเสียงห้ามของเธอก็ออกมาปนกับเสียงคราง มันห้ามตัวเองไม่อยู่เมื่ออีกฝ่ายสอดมือเข้ามาข้างในถุงน่องของเธอ แล้วลูบสัมผัสเนื้อหนังตรง ๆ แบบนี้ ความสยิวมันแผ่ซ่าน จนใจของเธอแทบจะตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม ไม่อยากจะหลงกลกับการกระตุ้นนั้น แต่มันทำได้ยากเหลือเกิน 

 

ยิ่งเขาแทรกปลายนิ้วเข้ามาแบบนั้น แล้วกระตุ้นเธอรุนแรงมันช่าง... 

 

“อื้อ!” สะท้านจนร่างกายมันสั่นไปหมด 

 

----------------------------------------------------------------------- 

 

 

!!คำเตือน!! 

/ เเนว NTR / การจงใจทำให้เกิดสัมพันธ์ต้องห้าม / หัวหน้าเเผนก กับเเฟนสาวที่ใกล้เเต่งงานกัน/ 

/ PWP / นิยายเรื่องสั้น / outdoor / ลวนลาม / ข่มขู่ / นอกกาย - นอกใจ / 

นิยายเรื่องนี้มีการบรรยายถึงฉากการมีเพศสัมพันธ์อย่างโจ่งแจ้ง 

ตัวละคร สถานที่ และการกระทำทุกอย่างไม่มีอยู่จริงเป็นเพียงสิ่งที่นักเขียนจินตนาการขึ้นมาเท่านั้น 

นิยายเรื่องนี้เป็นผลงานการเขียนของ 

Blue Hestia 

ห้ามคัดลอก ดัดแปลง และแก้ไข หรือนำบางส่วนในนิยาย 

ออกไปเผยแพร่ไม่ว่าจะด้วยกรณีใดใดทั้งสิ้นโดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากเจ้าของผลงาน 

สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติ พ.ศ.2558 

หากฝ่าฝืนมีโทษตามที่บัญญัติไว้สูงสุดตามกฎหมาย พระราชบัญญัติ 2558 

เน้น PWP เป็นหลัก  

Enjoy Reading Kah 

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว