แป้งร่ำสาวใหญ่วัยสี่สิบ ชีวิตของเธอเต็มไปด้วยงานจนกระทั่งเพิ่งรู้ตัวว่าไม่มีใครเคียงข้าง หลังจากทบทวนชีวิตดีแล้วจึงยื่นขอลาออกจากบริษัท และนับตั้งแต่นั้นมาชีวิตของเธอก็เปลี่ยน ระบบเส็งเคร็งนี่คืออะไร!

 

 

คำโปรย

 

“ฉันบอกเธอแล้วว่าหลานสาวของเธอเชื่อถือไม่ได้! เธอดูสภาพลูกสาวของเธอตอนนี้สิสะใภ้สี่ เพราะหล่อนเฟิ่นอี้ของเราจึงบอบช้ำ! หลายครั้งที่ฉันเตือนเธอก็ไม่เคยฟัง” น้ำเสียงดุดันถูกเอ่ยจากปากพี่สะใภ้ใหญ่ของบ้านด้วยความโกธร สะใภ้ใหญ่ตบเข่าด้วยความโมโหเด็กสาวของบ้านอี้

 

ย้อนกลับไปหลายปีก่อนในตอนที่เฉินเฟิ่นอี้ยังเรียนอยู่ในโรงเรียนประถมของตำบล ในตอนนั้นเด็กสาวน้อยมากที่จะถูกส่งเข้าเรียนในแถบชนบท หากไม่ใช่เพราะเป็นที่รักของครอบครัวจริง ๆ หรือพอมีเงินส่งเรียนบ้าง

 

ในการศึกษาประถมชั้นปีสุดท้ายของเฉินเฟิ่นอี้หรือในตอนนั้นสิบสองปี หล่อนถูกหลานชายของเศรษฐีในตำบลที่เรียนด้วยกันถูกใจ จึงให้ผู้ใหญ่มาขอหมั้น อีกทั้งเฉินเฟิ่นอี้ยังบอกว่าหล่อนชอบเขาและตกลงที่จะหมั้นด้วย แม้คนในบ้านเฉินจะยังไม่เห็นด้วยแต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ นั่นคือหลานชายของเศรษฐีเชียวนะ! หากเฉินเฟิ่นอี้ได้แต่งเข้าสกุลหมิงอย่างน้อยก็สบายกว่ามาทำงานในแปลงนา

 

ทั้งสองจึงคบหากันมาตั้งแต่นั้นและพอถึงเวลาเข้าโรงเรียนมัธยมต้น ทั้งสองก็เข้าไปในโรงเรียนเดียวกัน แต่ว่าครั้งนี้มีญาติผู้พี่จากสกุลอี้บ้านเดิมของผู้เป็นแม่เข้าร่วมกลุ่มด้วย เนื่องจากเพื่อนของหล่อนทางบ้านไม่ส่งเรียนต่อในระดับมัธยมต้น

 

หากเจอเฉินเฟิ่นอี้ย่อมเจอหมิงหลานฮุ่ย หากเจอทั้งสองคนย่อมเจออี้เหม่ยเฟิ่ง ทั้งสามตัวติดกันมากไปไหนก็ไปด้วยกัน ทว่าหลัง ๆ มาเฉินเฟิ่นอี้ล้มป่วยอย่างไม่ทราบสาเหตุ ทำให้ต้องออกจากโรงเรียนกลางคัน ทั้ง ๆ ที่อีกไม่กี่เดือนก็จบมัธยมต้นแล้ว

 

หมิงหลานฮุ่ยว่าที่หลานเขยของบ้านเฉิน ชอบตามอี้เหม่ยเฟิ่งที่อยู่ในหมู่บ้านเดียวกันกับเฉินเฟิ่นอี้มาเยี่ยมหญิงคนรักหลังเลิกเรียนอยู่บ่อยครั้ง คนในบ้านเฉินแรก ๆ ก็พอใจในเด็กคนนี้มาก ทว่าหลัง ๆ มา เริ่มไม่พอใจในการกระทำของหมิงหลานฮุ่ย เพราะทุกครั้งที่เขามายังหมู่บ้านเฟิ่งหลิน หมิงหลานฮุ่ยจะติดตามอี้เหม่ยเฟิ่งไปยังบ้านอี้ก่อน เมื่อถึงเวลากลับถึงจะแวะมาหาเฉินเฟิ่นอี้ที่อาการเริ่มดีขึ้นเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น

 

ย่าเฉินเคยให้สะใภ้สี่ลูกสะใภ้คนเล็กไปเตือนหลานสาวจากบ้านเดิมของหล่อนเพราะมันไม่เหมาะสม เด็กคนนั้นก็รับปากว่าจะบอกหมิงหลานฮุ่ยให้ ทว่าเขากลับไม่พอใจและไม่ยอมมาที่บ้านเฉินอีกเลย

 

จนมีข่าวลือว่าหมิงหลานฮุ่ยกับอี้เหม่ยเฟิ่งคบกัน และทั้งสองยังเหมาะสมกันมาก หมิงหลานฮุ่ยเป็นหลานชายของเศรษฐีในตำบลที่มีลูกชายคนเดียว อีกอย่างหมิงหลานฮุ่ยก็ยังเป็นลูกชายคนเดียวของบ้านหมิง ในอนาคตเขาย่อมต้องขึ้นเป็นเจ้าบ้าน ส่วนอี้เหม่ยเฟิ่งก็เป็นหลานสาวของกรรมการในหมู่บ้าน ซึ่งพ่อของหล่อนก็กำลังจะขึ้นเป็นเลขาธิการเร็ว ๆ นี้ ไหนจะเรียนในระดับมัธยมปลายอีก ดีกว่าเฉินเหม่ยเฟิ่งที่ป่วยขี้โรคเป็นไหน ๆ

 

ตอนแรกบ้านเฉินไม่ได้สนใจในเรื่องนี้เพราะหมิงหลานฮุ่ยหมั้นกับเฉินเฟิ่นอี้แล้ว แต่อยู่ ๆ หลายวันก่อนพ่อของหมิงหลานฮุ่ยกลับมายกเลิกสัญญาหมั้นหมายแถมยังบอกอีกว่าสินสอดบางส่วนที่ให้มาแล้วจะไม่เอาคืน สร้างความไม่พอใจให้สมาชิกในบ้านเฉินเป็นอย่างมาก หากเอาสินสอดคืนพวกเขาก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ว่าหมิงหลานฮุ่ยเหยียบย่ำจิตใจอันบอบช้ำของเฉินเฟิ่นอี้ด้วยการพาอี้เหม่ยเฟิ่งมาด้วย

 

เฉินเฟิ่นอี้ที่ทนดูไม่ไหวถึงกลับทรุดตัวลงพื้นและนอนสลบไม่ได้สติมาหลายวันแล้ว ผู้ชายในออกไปทำงานเก็บแต้มเหมือนปกติ ส่วนผู้หญิงช่วยกันทำงานในบ้านและสลับกันดูหลานสาว

 

“ฉันเอ็นดูเหม่ยเฟิ่งเหมือนลูกแท้ ๆ ไม่คิดว่าหล่อนจะเป็นแบบนี้” สะใภ้สี่ร้องไห้เสียงดัง ลูกสาวคนโตของหล่อนล้มป่วยมาหลายวันยังไม่ได้สติก็ปวดใจมากแล้ว ยังมีเรื่องของหลานสาวจากบ้านเดิมที่หล่อนเอ็นดูไม่ต่างจากลูก

 

 

 

สวัสดีค่ะกลับมาพบกันอีกครั้งในนามปากกา Ainthira06 นิยายเรื่องนี้ผู้เขียนยังเขียนไม่จบจึงตอบไม่ได้อย่างแน่ชัดว่าจะกี่ตอนจบค่ะ แต่ออกเล่มละเดือนแน่นอน^^

 

คำเตือน

 

Ainthira06 เขียนนิยายเรื่องนี้ขึ้นด้วยการจินตนาการไม่อ้างอิงประวัติศาสตร์แต่ก็มีบางอย่างที่ใช้ โปรดอ่านอย่างพิจารณาว่าเหมาะสมจะทำตามหรือไม่ กดใจ กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้เราด้วยนะคะ

 

เนื้อหา ตัวละคร สถานที่ เป็นเพียงเรื่องราวที่สมมุติขึ้นมา โปรดอ่านอย่างมีสติ

 

 นิยายเรื่องนี้จะมีการติดเหรียญถาวร

 

เปิดเรื่อง : 01/10/66

 

ปิดรื่อง :

 

 

 

สงวนสิทธิ์ห้ามลอกเลียนแบบส่วนใดส่วนหนึ่งของนิยายเรื่องนี้หรือคัดลอกไม่ว่าจะรูปแบบไหนยกเว้นจะได้รับอนุญาตจากผู้เขียนเป็นลายลักษณ์อักษร มิฉะนั้นจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ตามพระราชบัญญัคิลิขสิทธิ์ พ.ศ.๒๕๓๗

 

 

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว